สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

Osteoporosis

ตอนที่ 4

น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

Vitamin D

Vitamin D นี่สำคัญมากที่เดียว โดยเฉพาะเด็ก ๆ และผู้หญิงเบญจเพศ (แปลว่า ห้าสิบ) ที่ประจำเดือนหมดแล้ว ฝรั่งเขาเรียกว่า Meno-pause ภาษาอังกฤษแปลตรงความหมายเลยว่า Menses มัน Pause ก็คือประจำเดือนหมด ผมว่าน่าจะเรียกว่า Mens-no-come เสียดีกว่า เข้าใจง่ายดี

มีพรรคพวกเขาอยากรู้ว่าตัวสารหรือยามันคืออะไร จะบอกให้ก็ได้ แต่เครื่องพิมพ์ผมมันจะพิมพ์แบบสูตรเคมีไม่ได้ก็คงเป็นรูปอย่างนี้ คือ C28H44O มันทำหน้าที่ช่วยในการดูดซึมทางลำไส้ เก็บและใช้ แคลเซี่ยมและ ฟอสฟาเตสเข้าไปเป็นประโยชน์กลายเป็นกระดูกและฟัน

ตัวนี้แปลกหน่อยคือมันมากับแสงแดด คือรังสีเอาตราไวโอเลต Ultra-Violet จากแสงแดดจะทำการเปลี่ยนแปลงสารพวก 7-dehydrocholesterols ในร่างกายให้เป็นวิตามินดี หรือ Calcitriol เพราะฉะนั้น เราต้องตากแดดถึงจะมีสารตัวนี้ขึ้น พวกที่อยู่เมืองหนาวจะเห็นแสงแดดแค่ครึ่งปี ส่วนอีกครึ่งปีมีแดดน้อย แถมอากาศหนาวก็เลยไม่ยอมออกมาเจอแดด นี่ก็เป็นสาเหตุเกิดขาดวิตามินดี ตัวนี้ได้ แต่ไม่เป็นไรถ้าไม่กินเจก็ยังจะแก้ได้ เพราะพวกน้ำมันตับปลา นม ไข่ก็มีวิตามินตัวนี้เหมือนกัน น้ำส้มบางยี่ห้อยังมีวิตามินเติมให้พิเศษก็มี ส่วนพวกเราคนไทยที่เมืองไทย โดยเฉพาะพวกคนจนจะไม่ขาดวิตามินตัวนี้ เพราะไม่ค่อยจะได้อยู่ในห้องแอร์หลบแดดหลบร้อนเหมือนพวกผู้ดีผิวซีดทั้งหลาย มีแต่ตากแดดมากไปหน่อยผิวเลยคล้ำ อย่าไปดูแคลนพวกตากแดดมาก ๆ เหล่านี้ ฝรั่งมันเห็นเข้ายังอิจฉา เขาว่ามีสุขภาพดี เพราะพวกเขาไม่ชอบผิวขาวโจ๊ะ แปะ แป๊ะ เหมือนเปลือกกล้วย เขาหาว่าเป็น Jail Bird (นักโทษ) เสียฉิบ เลยอุตส่าห์ลงทุนไปเที่ยวที่เมืองไทย เพื่อไปนอนตากแดดให้ผิวคล้ำ ที่ผู้หญิงฝรั่งเขาเปลือยอก เพราะส่วนนั้นดูดแดดดีนักแลจะให้สังเกตอะไรอีกอย่าง หนุ่มฝรั่งที่ไปเที่ยวเมืองไทย แล้วเกิดติดใจสาวไทย ขอแต่งงานด้วย โดยมากสาวเหล่านี้จะมีผิวคล้ำ ก็ยังมีสาวเดินแบบของไทยที่ไปทำชื่อเสียงถึงต่างประเทศ คุณเธอก็ไม่ใช่ผิวขาวผ่องหรอกครับ เคยถามว่าทำไมไม่หาสาวผิวขาว ๆ หน่อย เขาบอกว่าเห็นสาวฝรั่งผิวขาว ๆ แล้วเอียน ไม่มีสุขภาพที่ดี

ไม่ใช่เพียงตัววิตามินดีอย่างเดียวที่จะทำให้กระดูกแข็งแรง ต้องมีสารอื่นอีกด้วย คือพาราไทรอยด์ ฮอร์โมนอีกด้วย ส่วนในผู้หญิงก็มีฮอร์โมนของผู้หญิง คือ Estrogen ช่วยด้วย และที่สำคัญในอาหารต้องมีธาตุแคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัส ในรูปของฟอสเฟตเพียงพออีกด้วย

การขาดสารแคลเซี่ยมและฟอสเฟตเพื่อไปเสริมกระดูกในเด็กเรียกว่า Rickets ริคเคตส์ ส่วนในผู้ใหญ่เรียกว่า Osteomalacia กระดูกอ่อน(กระดูกแข็งที่อ่อน) ส่วนใน Mens-no-come เขาเรียกว่า Osteoporosis แปลว่ากระดูกพรุน อันนี้ไม่เกี่ยวกับการตากแดดหรือกินอาหารพวกธาตุแคลเซี่ยมและฟอสเฟตเลย มันเกี่ยวกับขาดฮอร์โมนของผู้หญิงเสียมากกว่า

พวกเราคนไทยคงไม่ค่อยได้เห็นเด็กกระดูกพิการในเมืองเราและแถวแคลิฟอร์เนียกันเพราะมีแดดมาก แต่สมัยก่อน จะมีมากแถวประเทศหนาว คือคนเชื้อไวกิ้ง ในแถบสแกนดีเนเวีย (มักหมายถึงประเทศ สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ค) และอังกฤษในสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม เพราะมีหมอกควัน Smog จากโรงงานมาก ทำให้บังแดดไปหมดทั้งวันทั้งคืน เลยเห็นแดดน้อย และใส่เสื้อผ้าหนากันหนาว แม้จะมีแดด เสื้อผ้าก็กันแดดหมด ก็เกิดโรค ริคเคทส์กันมากในเด็ก ทำให้กระดูกอ่อน งอได้ง่าย ตั้งแต่กระดูกขา โค้งมากจนเป็นคันศร หลังโก่ง หัวโตแต่เบี้ยว นอกนี้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดกล้ามเนื้อท้อง เป็นตะคิวบ่อย บางครั้งถึงกับชักได้ และที่สำคัญในเด็กผู้หญิงจะมีกระดูกเชิงกรานเล็กและเบี้ยว ตอนโตเป็นสาว เมื่อมีลูกจะคลอดลำบาก ทั้งเด็กในครรภ์และแม่มีโอกาสตายมาก โชคดีในคนพวกไวกิ้งเหล่านี้ พบว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ดื่มนมได้มาก เลยช่วยให้ไม่เป็นโรคกระดูกอ่อนกันมาก ความโชคดีนี้เกิดเพราะการวิวัฒนาการของกรรมพันธุ์ เพราะว่าในนมนี้มีวิตามินดี D และคนไวกิ้งจะไม่แพ้นมเหมือนพวกเรา คือดื่มแล้วไม่ท้องเดิน คือไม่เป็นโรค Lactose Intolerance เรียกว่าธรรมชาติหรือพระเจ้าท่านช่วยนั่นแหละ

พูดถึงใส่เสื้อผ้ามากจนไม่ถูกแสงแดด แล้วก็เกิดโรคกระดูกอ่อนนี่ ทีแท้ก็คือ อัลตราไวโอเลต Ultra violet ก็ยังเกิดได้ในประเทศอาหรับหรืออินเดียในแถบร้อน แม่เล่นใส่เสื้อผ้าคลุมหัว หน้าถึงตีน เหมือนผ้าเดินได้ เขากันผู้ชายเห็นหน้า แบบที่เห็นในทีวีในประเทศอัฟกานิสถานตอนนี้ และไม่ให้ออกนอกบ้านไปทำงาน พวกนี้ก็ขาดแดดด้วย ผู้หญิงก็เกิดกระดูกอ่อน และทำให้เชิงกรานผิดปรกติ ออกลูกลำบาก

ผมพูดถึงคนผิวคล้ำไม่เป็นโรคกระดูกมันอ่อนหรืองอในเด็กหรือผู้ใหญ่ ปรากฏว่ากฎนี้ไม่จริงเสมอ พบว่าคนผิวดำที่มาอยู่เป็นทาสทางเมืองเหนือที่หนาวก็เป็นโรคกระดูกอ่อนกับเขาด้วย เขาค้นพบว่า การที่คนผิวดำอยู่อาฟริกานั้น มีแดดจัด สีดำ pigment ของผิวชั้นนอกจะกรองรังสีออกจนเหลือแค่หนึ่งในสามเท่านั้นที่ผ่านเข้าผิวชั้นใน เพื่อกันผิวไหม้ พอมาอยู่เมืองหนาว และมีแดดน้อย แถมต้องใส่เสื้อผ้ามากและหนา ก็ได้รับรังสีแดดน้อย แถมถูกกรองออกเสียสองในสาม เลยสร้างไวตามินไม่พอ แถมคนผิวดำ เหมือนคนเอเชีย แพ้นมวัว ท้องเดินทุกครั้งที่ดื่มนม เลยไม่ได้วิตามินดีมาเสริม เด็กผู้ใหญ่เลยเกิดกระดูกอ่อน เด็กก็พิการ ผู้หญิงก็ออกลูกยากมากกว่าคนขาว ถึงเจ็ดเท่าตัว

การค้นพบว่าน้ำมันตับปลาช่วยแก้โรคนี้ได้ก็ตอนปี ค.ศ. 1789 โดยแพทย์ Thomas Percival แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะสารอะไร จนมาค้นเจอเอาว่าคือตัววิตามินดี เมือ่ปี ค.ศ. 1922 โดยนักวิทยาศาสตร์ E.V. McCullum และสกัดสารนี้ได้เมื่อ ปี ค.ศ. 1930 โดยนักวิทยาศาสตร์ Aldolf Windaus

เดี๋ยวนี้อาหารเช่นนม เนย น้ำส้ม และอาหารหลายชนิดจะมีการเสริมด้วยวิตามินดีด้วย ถ้ากินแล้วไม่เป็นอะไรก็อย่าไปคิดอะไรมาก ส่วนที่อังกฤษมีการต่อต้านวิตามินเสริมในอาหาร เด็กก็ยังมีโรคกระดูกอ่อนอยู่นั่นแหละ

กลับไป ตอนที่ 3

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us