คน
ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์
ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์
จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต
สาขาไฟฟ้าจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และจบปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เริ่มงานเป็นวิศวกรโรงงานแต _____________________________________________________________________________________________________________________________________
|
หัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ของคุณมีพลังหรือพับฐาน มาจากคุณภาพของคำว่า คน ที่อยู่เบื้องหลัง แบรนด์นั้น ๆ คนคือตัวช่วยนำพาให้แบรนด์ของคุณเดินไปถึงจุดหมาย หรือเดินตกท่อ ถ้าอย่างนั้นมาดูว่าคำว่าคนมีผลอย่างไรต่อความสำเร็จของแบรนด์ ขอเริ่มต้นจากประเด็นว่า การสร้างแบรนด์ที่แยบยลไม่ได้มุ่งหวังเพียงให้มีมนต์เสน่ห์กับผู้บริโภค แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นได้ต้องทำครบวงจร โดยแบรนด์ต้องมีอิทธิพลกับ Stakeholders ทุกกลุ่ม Stakeholders ของแบรนด์คือลูกค้า พนักงานขององค์กรที่เป็นเจ้าของแบรนด์ และผู้ถือหุ้นขององค์กรนั้น ๆ สำหรับพนักงานขององค์กรที่เป็นเจ้าของแบรนด์ แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่จะมีความกระจ่างในเป้าประสงค์ว่ากำเนิดเกิดมาเพื่ออะไร และแก่นของตัวแบรนด์มีอิทธิพลกับวิธีคิดและการกระทำของพนักงานขององค์กร เป็นเหตุผลที่ทำให้พนักงานแต่ละคนมาทำงานด้วยความกระตือรืนร้น ทำให้คนทำงานพร้อมที่จะเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรค ยินดีที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ถึงแม้จะพบกับความยากลำบาก ทำให้พนักงานเห็นว่าภารกิจของเขามีความหมายที่ใหญ่กว่าคำว่า งานคือการรับเงินเดือน ช่วยให้พนักงานเปิดก็อกสองของพลังสมองมาเดินหน้าเรื่องงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดี ๆ กับลูกค้า แบรนด์คือ Organizing force ที่รวบรวมกลุ่มคนที่มีความคิดอ่านแบบเดียวกันมาอยู่ร่วมกัน ยึดและโยงใยให้ผู้คนมาทำงานร่วมกันเพื่อเดินหน้าภารกิจไปถึงจุดหมาย กระบวนการสร้างแบรนด์ที่สมบรูณ์แบบคือการสร้างปฏิกริยาลูกโซ่เป็นวงกลม แบรนด์ทำให้พนักงานมีความสุข ความสุขทำให้คนทำงานเกินร้อย เพื่อส่งมอบคุณค่าแบรนด์แบบเกินความคาดหมาย แล้วสุดท้ายเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น เมื่อความสำเร็จของแบรนด์มีจุดเริ่มต้นมาจากคำว่า คน ดังนั้นการบริหารจัดการเรื่องคนจึงมีความสำคัญควรค่าแก่การศึกษา เริ่มต้นที่การคัดเลือกคน ผมเชื่อว่าวิธีในคัดเลือกคนเราควรให้ความสำคัญกับเรื่อง ทัศนคติมากกว่าคำว่าประสบการณ์หรือฝีมือ เพราะทัศนคติสอนกันไม่ได้ แต่ฝีมือสามารถขัดเกลาเสริมเติมแต่ได้ อีกมุมหนึ่งของวิธีการคัดเลือกผู้คน คือเลือกคนที่มีความรักหรือมี Passion ในสิ่งที่ตนเองทำ คนเราถ้ารักอะไร ก็จะผลักดันให้ตนเองมีความเป็นเลิศในเรื่องนั้น ในประเด็นของการพัฒนาคน องค์กรต้องให้ความสำคัญกับคำว่า Life time learning มากกว่าคำว่าการฝึกอบรมในห้องแอร์เย็น ๆ โดยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ให้ผู้คนมีความหิวกระหายที่อยากจะเรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกวันให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่รอให้คนมาป้อนความรู้แบบตักใส่ปากในห้องฝึกอบรม เคยได้ยินคำว่า Kaisen ไหมครับ เป็นปรัชญาในการพัฒนาตนเองของคนญี่ปุ่น วิธีคิดแบบนี้มาจากความเชื่อที่ว่า ทุก ๆ วันผู้คนต้องมีพัฒนาการให้ดีขึ้นจากเมื่อวานนี้ ตัวอย่างเช่นถ้าทุก ๆวันเรามีพัฒนาการดีขึ้นจากเมื่อวันวาน 0.1 % ในหนึ่งปีคนคนนั้นจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น 36.5% Kaisen คือต้นแบบของการพัฒนาตนเองตลอดชีวิต และการเรียนรู้ก็ต้องเป็นแบบชั่วชีวิตเหมือนกัน ไม่ใช่ทำตัวเป็นแบบลูกนกเอี้ยงรอให้คนมาป้อนอาหาร สุดท้ายคือระบบบริหารจัดการที่จะรักษาคนดีไว้ในองค์กร ปรัชญามีง่ายนิดเดียวคือการดูแลทุกข์สุขของคนในองค์กรอย่างจริงใจ แบบต่อเนื่องและยืนยาว |