สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                                         ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  CONTACT US

 

         

                                คลองปานามา

                                   ตอนที่ 4                                                                   

                                                                                                    น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

            

อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เป็นมงคลของชาวไทย จีน คือเป็น อาทิตย์ของปีใหม่จีน แม้ผมจะมาอยู่ประเทศนี้กว่าสี่สิบปีแล้ว ผมและภรรยาก็ยังมีการไหว้บรรพบุรุษทุกปี เพราะยังถือคติ ทำบุญเสียเปล่า ไหว้เจ้าท้องอิ่ม (โธ่ ผมก็ฟังคนจีนเขาว่ากันตอนเด็ก ผมเองก็ยังไปทำบุญที่วัดสม่ำเสมอ)

ผมต้องขออวยพรตามภาษาจีนว่า

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ กำฮอยฮวดฉ่อย

ปีนี้เป็นปี เถาะ กระต่าย คนจีนเรียกว่า เซี่ย(ปนเสียงเสี่ยวไปด้วย) ไม่ใช่แซ่ คนไทยเขาเรียกว่า นักษัตร คือการนับปีโดยใช้สัตว์ที่ทุกคนรู้จักดี สิบสองตัว แน่นอนคนจีนเขาต้องนับเอามังกรปนเข้าไปด้วย

การที่คนจีนที่ต้องใช้รูปสัตว์มาแทนปี ด้วยเหตุที่พอจะรู้คือ ในสมัยก่อน ไม่มีการนับปีที่เป็นแก่นสาร เหมือนเช่นศาสนาพุทธเราก็เอาวันปรินิพานของพระพุทธเจ้าเป็นปีแรก แต่ของจีนถือประเพณีของกษัตริย์ที่ครองราชย์ ถ้าองค์ใหม่ขึ้นแทนองค์ใหม่ ก็ใช้ชื่อกษัตริย์องค์ใหม่นั้นเป็นปีเรื่มต้นของกษัตริย์องค์นั้น เช่นพระเจ้า เล่นเต้ ที่เราอ่านกันในสมัยสามก๊ก อยู่ครองราชย์แค่ยี่สิบเอ็ดปีก็ถูกปลงพระชนย์ แล้วพระเจ้า เหี้ยนเต้ ก็เป็นแทนก็นับเริ่มต้นกันใหม่เป็นปีหนึ่งใหม่ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ อย่างนี้แหละครับ แล้วชาวบ้านทั่ว ๆ ไปจะไปจำหรือรู้ได้อย่างไร เครื่อง I-PAD ก็ไม่มี วิทยุ ทีวีก็ไม่มี นอกจากผู้อยู่ในวงการราชการเท่านั้น

ดังนั้นการใช้ปีนักษัตรจึงง่ายต่อการจำปีเกิดได้ ไม่ต้องไม่รับรู้ว่าใครเป็นใครตายให้รกสมองเสียเปล่า อย่างผมเกิดปีเถาะและอยู่มาหกรอบแล้ว นับดูก็แล้วกันว่าอายุผมเท่าไหร่ (ชักอาย แต่ใจผมก็ยังหนุ่มอยู่นะครับ) นอกจากใช้จำว่าอายุเท่าไหร่แล้ว เวลาหาคู่ยังใช้เป็นเครื่องเสี่ยงทายอีกด้วย คือ ถ้าใครเกิดปีไหน แล้วไปหาคู่ที่อยู่ตรงข้ามในรอบนักษัตร คือห่างกันหกปี เขาถือว่า ชง ย่อมแต่งกันไม่ได้ สาเหตุ เพราะอะไร ผมไม่รู้ เช่นกระต่ายจะมีคู่เป็นคนเกิดปีไก่ หรือปีระกา ย่อมไม่ได้ เพราะ ชง ซินแสเขาว่าอย่างนั้น

ผู้ชอบเดานี่เดานั่น พวกนี้เราเรียกว่า ซินแส แปลว่า เกิดก่อน (และโกหก ตอแหลเก่งกว่า) หรือพวกเราเรียกว่า โหร หรือ โหน เคยอ่านข่าว ว่าโหรหนุ่มคนหนึ่ง ซี้ซั้วโหนไปบอกว่าอีหนูคนหนึ่งของนายทักษิณ กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ อยู่ เลยถูกตบหน้ากลางเวทีหนึ่งฉาดโดยแม่ของอีหนูและต้องลงไปกราบเท้าขอโทษด้วย

การเดาหรือดูโชคชะตาเป็นอาชีพที่หาเงินได้ดีอาชีพหนึ่ง ระยะหนึ่งตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ เคยอยากจะเรียนวิชาหมอเดานี่ แต่ไม่มีเวลาจริง ๆ ไม่ใช่เพราะมัวแต่ไปจีบสาวอยู่  แต่เพราะกลัวสอบตก จะถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย

แล้วหมอดูอะไรเอ่ยที่ผมอยากเรียน เพราะมีหลาย ๆแขนง เท่าที่ผมรู้ แบบจีน คือการดูด้วยการชั่งน้ำหนักของชะตา เรียกว่า เต่งเหมี่ย คือการใช้เวลาเกิด เกิดในปีนักษัตรอะไร เดือนเกิด ยามเวลาตกฟาก (ของจีนมีแค่สิบสองยามเท่านั้น ผมยังจำได้และนับได้ด้วย) แล้วมารวมตัวเลขรวมกัน แล้วก็ไปเทียบในตำรา พูดแล้วผมก็ปวดใจนิด ๆ  คือตอนผมอายุสิบกว่าขวบ ในยามบ่ายในวันไหว้ก่อนวันปีใหม่จีน หลังกินอาหารไหว้บรรพบุรุษแล้ว พวกเด็ก ๆ ก็รุมตัวกันให้น้าหญิงผมคนหนึ่ง ให้เขาดูโชคชะตากัน เพราะผู้ใหญ่คนอื่นเขาไปเล่นไพ่หรือเล่นนกกระจอกกันหมด

ปรากฏว่าในหมู่เด็กด้วยกัน ผมมีชะตาชีวิตที่มีน้ำหนักที่สุด ไชโย(ซวยไป เพราะแม่ของเด็กที่เป็นลูกพี่ลูกน้องด้วยกัน ต่างไม่พอใจ มันจะเป็นไปได้ไง เพราะผมเป็นเด็กกำพร้าพ่อ ใคร ๆ เขาก็ดูถูก แถมยังไม่ได้เข้าเรียนโรงเรียนมีชื่อหรือมีการศึกษาแต่แบบตก ๆ หล่น ๆ เหมือนลูกพี่ลูกน้องคนอื่น ๆ แต่ผมก็เอาตัวรอดมาได้ จนถึงเดี๋ยวนี้ แม้จะไม่ได้เรียนในโรงเรียนดี ๆ ก็ตาม เขาเดาว่า ผมจะเรียนเก่งที่สุดในหมู่ แล้วได้ไปเรียนเมืองนอกด้วย แถมได้ตายเมืองนอกด้วย (เท่เหมือนหมา Poodle เลย )

นอกจากการเดาโดยชั่งน้ำหนักชะตาชีวิตแล้ว ก็มีวิชาดู โหงวเฮ้งของใบหน้า (แถวสีผิวหนัง และความสูง อ้วนผอมอีกด้วย) เขาดูที่ใบหน้า ว่า หน้าผาก กว้าง แคบ ขนาดไหน จมูกโด่งหรือแฟบ คิ้วหนาไหม ตรงปลายขี้ขึ้นหรือลง ลูกตาแบบตาตี่ หรือแบบนายพล กวนอู เวลาคุยด้วยกล้ามองสบตาด้วยหรือเปล่า สายตางอกแงกหรือเปล่า แต่นิสสัยคนเอเชีย ผู้น้อยย่อมมองต่ำเสมอ ถ้าจ้องมองเวลาคุยกันกับผู้ใหญ่ เขาเรียกว่าเสียมารยาท ปากกว้าง กระจุ๋มกระจิ๋ม หรือปากห้อย ไม่เคยหุบ ปล่อมให้น้ำลายไหลยืด หูยาน เนื้อหนาหรือบาง ติ่งหูติดใบหน้า หรือห้อยแยกจากแก้ม

วิชา ดูลายมือ อ้ายวิชานี่แหละครับผมอยากหัดดูจริง ๆ เพราะเอาไว้ เต๊ะอั๋งอีหมวยได้อย่างไม่โดนตบหน้าเอา เพราะไปจับมือถือแขนเขา เขาสนใจคือไว้ดูวาสนา รวยหรือจน โง่หรือฉลาด จนกระทั่งหาคู่ด้วย

วิชาผูกดวง ซึ่งสืบทอดมาจากอินเดีย ดู ฤกษ์ ยาม การผูกดวงนี่เราจะอ่านเจอในหนังสือ รามเกียรติ นอกจากเรื่องส่วนบุคคลแล้ว ก็ยังบอกถึงดวงเมืองอีกด้วย อย่างตอนนี้เขาดูเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ จะดวงขาด เพราะมีความหล่อแต่ความกะล่อนเป็นทวีคูณ

วิชาดูดาว Astrology มักจะใช้ในการดูชะตาชีวิตของคนโด่งดัง โดยดูว่าดาวพระเคราะห์ หรือดาว ฤกษ์ เช่นพระศุกรเข้า พระเสาร์แทรก แถมมีดาวหางเข้ามายุ่งยากอีกด้วย เช่นในเรื่องสามก๊ก เมื่อขงเบ้ง อ่านดูดาวของตัวเองซึ่งผูกพันกับชะตาของรัฐฉู่ ดาวของเขา ลิบหลี่ลงก็เดาได้ว่า ตัวเองจะต้องตาย เพราะทำบาป เผาคนตายไปมาก และรัฐฉู่ก็จะล่มตามไปด้วย เพราะ อาเต้า กษัตริย์องค์ใหม่ก็ไม่เอาไหน มัวแต่ล่อ จิ้งหรีด จนลืมว่าราชการ แล้วจะไปกู้ชาติต่อกรกับรัฐ เหวยได้อย่างใด

สมัยใหม่นี่เขาดูด้วยการวัด กราฟ ของชีวิต เหมือนดูกราฟของ สต๊อก Stock นั่นแหละ

การดูด้วยไพ่ จิ๊ปซี หรือฝรั่งเรียกว่า Tarot เห็นในหนังฝรั่ง หรือไทยชอบโชว์กัน โดยใช้ไพ่ชุด พิมพ์รูปคนต่าง ๆ สำหรับการดูชะตาชีวิตโดยเฉพาะ

Psychic Reading ไม่มีอะไรพิเศษ มันก็คือ นั่งทางใน นั่งหลับตา เดาว่าคนที่มาให้ดูชะตาชีวิต ในกระเป๋ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ถ้าหนุ่ม ๆ สาวมาก็มาหาด้วยเรื่อง คู่รัก เพราะพวกนี้ ฮอร์โมนกำลังมาแรง สาวแก่หน่อย ใกล้วัยทอง ก็มาด้วยเรื่องผัวไปเตาะแต๊ะกับสาวอื่น คนอายุมากก็มักมาด้วย โรคภัยไข้เจ็บ มีเรื่องเล่าว่า ตาแก่ อายุแปดสิบกว่า มาถามให้เดาว่า จะตายเมื่อไหร่ ด้วยโรคอะไร ยายแก่ที่บ้านจะไปหาผัวใหม่หรือเปล่า เมื่อตัวเองตายแล้ว อ้ายหมอดูทางใน ชักหงุดหงิดในใจ เลยโพร่งออกมาว่า ลื้ออยู่เกินอายุที่ยมทูตเขากำหนดมานานแล้ว ลื้อจะรู้มากกว่านี้ไปทำไมว้า มีอะไรสนุก ๆ ที่อยากทำก็ทำเลย ถ้าปีหน้าลื้อยังไม่ตาย จะมาให้อั๊วเดาใหม่ก็ยังได้

การเสี่ยงเซียมซี ว่าใบที่เก้านั้นหนา ชีวิตเกิดมาเหมือนฟ้ามืดมน ไร้สูญสิ้นความหมายกระทั่งคนรักดับจน ดั่งที่เพลงของ นายสมยศเขาคร่ำครวญนั่น นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเสี่ยงทาย เวลาได้เซียมซีหลังเขย่ากระบอกนั่นแล้ว เพื่อความแน่นอนว่าจะถูกต้องจริง ๆ ไหม ก็ต้องโยนติ้วกัน สามครั้ง ต้องหงายสองครั้ง คว่ำหนึ่งครั้ง ถึงจะใช้ได้ หรือตั้งกฎขึ้นมาเองก็ได้ ต้องคว่ำสามครั้ง หรือหงายสามครั้ง ถึงจะแม่น แล้วยังแถมภาวนาย้ำกับเจ้าพ่อ หรือเจ้าแม่ว่า แน่นอนหรือเปล่า

ปีนี้ก็ขอให้ผู้อ่านจงมีสุขภาพที่สมบูรณ์ ยังไงถ้าให้หมอตรวจร่างกายสักครั้งก็จะดี นอกนี้ขอให้ร่ำรวยศรีสุข

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ (ถ้าใครเขาอวยพรเราแบบนี้ เราก็อวยพรเขากลับว่า ยี่เกตั้งตั๊ง)

 

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเขียนถึงเรื่อง สืบพันธุ์ของยุง ผมกลับไปอ่านอีกครั้งตอนหนังสือพิมพ์ออก รู้สึกว่าผมเขียนให้ผมอ่านเองเสียมากกว่า คิดว่าคงไปหาผู้อ่านที่จะเข้าใจได้ไม่กี่คน ต้องขอโทษด้วยที่วางตัวเป็นนักวิชาการมากไปหน่อย

มาลาเรียเขานับว่าเป็น parasite พาราไซต์ เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยหรือทำมาหากินบนสัตว์อื่น ๆ  แต่เป็นพาราไซต์ที่มีความเจริญแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆทางเซ๊กส์ เราวัดความเจริญของสัตว์ โดยการสืบเผ่าพันธุ์โดย วิธีการแพร่พันธุ์ โดยท่าแปลก ๆ

ที่ง่ายที่สุด ที่เราเคยเรียนมาคือ ตัวอามีบา Ameba เมื่อมันเจริญ หรือโตเต็มขนาดของมัน มันก็แบ่งตัวเอง เป็นสองตัว เหมือนเอามีดหั่นที่ตรงกลางก็ได้สองตัว แบบนี้เรียกว่า Cell Fission

ส่วนสัตว์ที่เจริญมาก ๆ แล้ว มันจะสืบพันธุ์ แบบมีเซลล์ที่เป็นตัวผู้และตัวเมียผสมกัน เอาแบบง่าย ๆ คือมนุษย์ เรามีการแบ่งตัวโดยระบบ โครโมโซม 23 คู่  ในนี้จะมีโครโมโซมพิเศษ ของผู้ชายหรือผู้หญิง เรียกว่า เซ็กส์โครโมโซมคู่หนึ่ง ในผู้ชายจะเป็น X กับ Y โครโมโซม ของผู้หญิงมีเป็น X กับ เมื่อของผู้ชายแบ่งตัวที่จะสืบพันธุ์ ก็จะได้ตัวผู้แทนของมัน เรียกว่า Gamete or Germ cell

ตอนสืบพันธ์กัน ก่อนหน้าเซ็กส์เซล จะแบ่งตัวเป็นสอง ในผู้ชาย จะมีเซ็กส์โครโมโซม ที่มีตัว X กับอีกตัวที่มีแต่ Y เท่านั้น จะมาในรูป Sperm หรือตัวอสุจิ คือตัวที่มีหางว่ายเวียนวนในน้ำกาม (ถ้าอายุต่ำกว่าสิบแปด ห้ามอ่าน)

ส่วนของผู้หญิง ตอนเซ๊กส์โครโมโซมแบ่งตัว จะมาในรูปไข่ เรียกว่า Ovum โอวู้ม สองตัว มีโครโมโซมอยู่ เป็น Y ทั้งสองตัว ดังนั้นไข่ของตัวเมียจะมีอยู่แค่แบบเดียวเท่านั้น ไม่มีให้เลือก แต่ของผู้ชายมี X หรือ Y ถ้าอ้ายตัวมีหางที่มีเซ็ค โครโมโซม X ไปผสมกับไข่ของผู้หญิง ซึ่งมีแต่ X ล้วน ๆ เด็กที่จะเกิดมา ถ้าเป็น X บวก X ก็เป็นผู้หญิง ถ้าอ้ายตัวมีหาง ที่มี เซ็กส์ โครโมโซมที่เป็น Y เด็กที่เกิดมาก็มี X กับ Y ไชโย เป็นเด็กผู้ชาย เอ๊ แล้วได้ลูกออกมาเป็นผู้หญิง ไม่ไชโยหรือไง

แน่นอนตอนแบ่งตัว โครโมโซมทั้งหญิงหรือชายจะมีโครโมโซมที่ไม่เกี่ยวกับเพศอีก 22 ตัวร่วมมาด้วย พวกนี้จะเกี่ยวกับ รูปร่างหน้าตา เชื้อเลว หรือผู้ดีตีนแดงต่าง ๆ ร่วมมาด้วย

กลับมาเรื่องของยุงหน่อย ตอนตัวพาราไซต์ที่มีทั้งตัวผู้ชายและหญิงที่ดูดจากมนุษย์ เมื่ออยู่ในตัวยุงมันก็ผสมพันธุ์กัน แล้วก็ออกลูกหลานมากมายพวกนี้ไม่แบ่งเพศ แล้วพวกนี้ก็ย้ายไปที่ต่อมน้ำลาย เตรียมเข้าตัวมนุษย์คนที่ซวย เมื่อเข้าตัวมนุษย์ ก็เข้าตับแล้วก็ออกมาอาละวาดเข้าเม็ดเลือด ตอนมันแยกตัวระหว่างอยู่ในเลือด บางกลุ่มก็จะกลายเป็นพวกที่มีเพศ รอให้ดูดเข้าตัวยุง มันก็วงเวียนไปมาอย่างนี้แหละ  ถ้ายังไม่เข้าใจ ผมคงต้องกลับไปเข้าโรงเรียนแพทย์อีกครั้ง เพราะคำว่า DOCTOR แปลว่าผู้ทรงวิชาและผู้สอน จะต้องสอนเป็นด้วย

            

กลับมาเรื่องของยุงเถิด ตัวพาราไซต์ของยุงที่จะทำให้เป็นมาเลเรีย มีอยู่หลายจำพวก คือ Plasmodium falciparum , Plasmodium vivax, Plasmodium ovale, Plasmodium malariae. และอีกมากมายหลายตัว การที่มีหลายตัว ก็ทำให้เม็ดเลือดเกิดการแตกละลายในระยะเวลาต่าง ๆ  กัน มีทั้ง ทุกวัน วันเว้นวัน  ทุก3-4วัน

การรักษาก็ต้องมีหลายขั้น ตั้งแต่การป้องกันยุงกัด เช่นตอนขุดคลองเขาทำกัน การทำยากันยุง ยาทาผิวหนังไม่ให้ยุงกัด ก็ยังสงสัยว่าจะช่วยได้หรือไม่ การนอนในที่ในที่มีมุ้งกันได้ หรือบ้านที่ติดตาข่ายกันยุง การเผายากันยุงยี่ห้อตราไก่ที่เราใช้กันก็ช่วยด้วย อีกวิธีหนึ่งก็คือกินยาป้องกัน แต่ ยาที่กินก็แล้วแต่สถานที่ และชนิดเผ่าพันธุ์ของมัน

ในแถบประเทศของเราและบริเวรนั้น เผ่าที่ทำร้ายเรามากที่สุด คือ Plasmodium falciparum แล้วยาที่เคยใช้บ่อยและราคาถูก คือ Chloroquine ก็เกิดความต่อต้านจากมาลาเรียตัวนี้ แต่อย่าเพิ่งสิ้นหวัง ยังมียาตัวใหม่คือ Mefloquine กินอาทิตย์ละครั้ง และ Doxycycline 100 mg วันละครั้ง และอีกสองสามอาทิตย์กลังออกจากถิ่นที่มีเชื้อตัวนี้อยู่ โชคดีประเทศเราทางสาธารณสุขและ WHO ได้มีการปราบตัวมาลาเรียนี้อย่างได้ผล

ในถิ่นอื่นที่มีเชื้อตัวอื่นเช่นอาฟริกา รอบ ๆ ทะเล เมดิเตอเรเนี่ยน ทวีปอเมริกาใต้ ที่มีเชื้อมาลาเรียตัวอื่น เช่น P. vivax, P ovale . และ P. malariae พบว่า ตัว Chloroquine 500 mg ต่ออาทิตย์ ใช้ได้ผลมาก        

       

            กลับไปอ่านตอนที่ 3                                                         อ่านตอนที่ 5

              

 

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                                 ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2011 Chulalongkorn University Alumni Association of California