Career Path
ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์
ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์
จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต
สาขาไฟฟ้าจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และจบปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เริ่มงานเป็นวิศวกรโรงงานแต _____________________________________________________________________________________________________________________________________
|
Career Path
งานหลักอย่างหนึ่งของคนที่เป็นลูกพี่ในบริษัทโฆษณาคือรับใบลาออกจากลูกทีมและให้คำแนะนำกับเขาเพื่อให้เขาสามารถเลือกทางเดินที่เหมาะสมให้ตนเอง
เป็นเรื่องเหลือเชื่อในช่วงที่เศรษฐกิจสดสวย Turnover rate ของคนในวงการโฆษณาสูงมากบางปีเป็นหลักสิบเปอร์เซนต์ ผู้คนเปลี่ยนงานบางครั้งเพียงเพื่อขึ้นค่าตัว ไม่เฉพาะวงการโฆษณาในวงการการเงินอย่างเช่น Investment banking ก็เอากับเขาด้วย
หัวข้อหนึ่งของการพูดคุยระหว่างคนที่เป็นลูกพี่กับคนที่ต้องการไปอยู่ที่ใหม่ก็คือถ้าผมอยู่ที่เดิม Career path ของผมจะเป็นอย่างไร
อยากจะบอกว่าไม่มีใครสร้าง Career path ให้คุณได้ดีเท่ากับตัวคุณเองนั่นแหละคือผู้เขียนชะตาชีวิตของอาชีพว่าจะดีหรือเลวอย่างไร
ความสำเร็จในอาชีพต้องผ่านการวางแผน ไม่ใช่ทำไปวัน ๆ รอเงินเดือน ความสำเร็จของอาชีพต้องมีพิมพ์เขียวว่าจะโตจากต้นกล้าเป็นต้นไม้ใหญ่ได้อย่างไร
จากการสังเกตุสิ่งรอบ ๆ ตัวและคุยกับผู้รู้ ผมคิดว่าช่วงชีวิตของการเติบโตจากตั้งไข่มาเป็นแม่ไก่หรือพ่อไก่น่าจะมีเส้นทางอย่างนี้
1. เมื่อยังเป็นวุ้น ลองนึกถึงตัวเราเองเมื่อจบการศึกษามาใหม่ ๆ แล้วเข้าทำงานในปีแรก ๆ สภาพที่ยังเงอะงะต้องปรับตัวเองกับโลกข้างนอก หน้าที่ของวุ้นคือค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร เก่งอะไรเป็นพิเศษ คนที่อยู่ในช่วงนี้เป็นจำนวนมากไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อยากได้งานเพียงเพื่อสร้างรายได้ ลองถูกลองผิดไปเถอะครับ ไม่ว่ากัน
2. ช่วงเป็นต้นกล้า เมื่อเริ่มตกผลึกรู้ว่าอยากทำอะไร นี่เป็นช่วงข้อต่อสำคัญที่ต้องตอกเสาเข็มวางฐานซึ่งจะมีผลต่อ Career path ในอนาคต อย่าเล็งว่าต้องการแค่เงินเดือนสูง ๆ สิ่งที่ต้องใฝ่หาคือมีครูดีเพื่อการเรียนรู้ ครูดีน่าจะมีอยู่สองอย่าง หนึ่งไปอยู่องค์กรที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยความรู้ แล้วเรียนผ่านเนื้อของงาน สองไปอยู่ใกล้คนเก่ง องค์กรไม่ดังไม่ว่ากัน อยู่กับผู้รู้มีแต่จะได้ ได้มากแค่ไหนอยู่ที่เราที่เป็นคนตัก
คนเราต้องหิวความรู้และไม่อายที่จะถาม ผมไปประชุมประจำปีสมาคมโฆษณาเมื่อสองสามอาทิตย์ที่แล้วเจอกับอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งซึ่งปัจจุบันเป็น Agency head เขาเล่าด้วยความขันในตัวเองว่าเมื่อเข้าวงการใหม่ ๆ ไม่รู้ศัพท์เฉพาะทาง เลยถามเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ด้วยคำถามที่ไม่น่าถาม ไอ้คำว่า Double head มันหมายถึงอะไร ผมบอกว่าผมก็เป็นเหมือนกันแม้แต่ Artwork ผมยังไม่เข้าใจความหมายของมันเลย ถามไปเถอะผมว่าเท่ห์ออก คุณมีโอกาสถามเพียงช่วงนี้ช่วงเดียว
การเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ในช่วงสร้างฐานเป็นเรื่องไม่ค่อยจะดี เสาเข็มลงไม่แน่นสักทีเพราะมัวแต่เปลี่ยนงานมากกว่าจะหาความรู้ เห็นมาเยอะและอยากสรุปว่าถ้าไม่ตอกเสาเข็มให้แน่นต้นกล้าจะโตแบบลูกโป่ง
3. ช่วงเปล่งแสง เมื่อฝีมือแก่กล้าก็ต้องหาเวทีที่จะโชว์ การเลือกเวทีก็มีความสำคัญ บางคนเงื่อนไขเยอะอยากอยู่เวทีดัง ชกมวยรุ่นใหญ่ และรายได้ต่อไฟล์ทสูง มีครับแต่น้อย ในชีวิตจริงเราไม่ได้ทุกอย่างที่ฝันต้องชัดเจนว่าต้องการอะไรในชีวิตช่วงนี้
โอกาสและอิสระในการแสดงออกครับ
ถ้าเป็นเวทีต้องเลือกเวทีแบบ Academy Fantasia ออกแขกครั้งสองครั้งแววออกทันที เงินน้อยหน่อยก็เอาน่ะ
ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่ใช้วิธีคิดแบบนี้ และมันส่งผลต่ออนาคตความก้าวหน้าของอาชีพอย่างคุ้มค่า เขาทำงานกับบริษัทต่างชาติในแผนกการตลาด มีอยู่วันหนึ่งลูกพี่ที่เป็นผู้อำนวยการตลาดที่เป็นชาวต่างชาติขอย้ายกลับไปทำงานที่บ้านเกิด นายใหญ่ก็เลื่อนเพื่อนผมขึ้นมาบริหารแผนก น่าจะเป็นข่าวดี แต่เฉพาะช่วงแรก เพราะกัปตันทีมที่เป็นชาวต่างชาติเป็นคนเจ้าอารมณ์และทำงานด้วยยากมาก แถมต่อมารู้อีกว่าเงินเดือนของเขาน้อยกว่ามาตรฐานของอุตสาห กรรม แต่เขาทำงานโดยไม่บ่น ใช้โอกาสสร้างผลงานโดย Launch แบรนด์ใหม่ ๆ หลายตัว สุดท้ายลูกพี่ยังไม่เห็นความดีก็ลาจากกันไป จากนั้นความก้าวหน้าของอาชีพก็วิ่งร้อยเมตร มีแต่งานเข้ามาหา จนในปัจจุบันเป็นเบอร์สองของบริษัทใหญ่ทางด้านการตลาด
การหาเวทีบางครั้งต้องกล้าเสี่ยง เวทีดังไม่ได้หมายความว่าคุณจะดังไปพร้อมกับชื่อเสียงของเวที บางครั้งเวทีท้องถิ่นหรือเวทีใหม่ก็ขับความเป็นดาราของคุณได้ เห็นมามากแล้ว
4. เมื่อติดลมบน ตอนนี้คุณต้องชี้นำทิศทางขององค์กร ถ้าทำการบ้านมาแจ๋ว น่าจะรับมือได้สบายมาก คนที่ชอบเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่นจนฐานไม่แน่น ถ้าเกิดหลุดหลงมาถึงตรงนี้ ก็ตัวใครตัวตัวมันครับ
ถึงตรงนี้คุณน่าจะรู้ว่าใครเป็นคนกำหนดความก้าวหน้าของชีวิตเรา