สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                    คำไว้อาลัยแด่คุณจำรัส (แช้มป์) ธาระ                                                                                               

                                                                                                 โดย ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพ

                                                                                                                   อดีตครูอาสาฯ วัดไทย ลอสแองเจลิส

                                                                                                            

                    ชื่อว่า แช้มป์ ยากที่ใครจะล้มได้ คุณจำรัส ธาระ จึงเป็น "แชมเปี้ยน" ในสังเวียนชีวิต ตลอดมา ด้วยเลือดนักสู้ชาวอยุธยา ฝ่าฟันทั้งด้านการศึกษา และอาชีพอยู่ในกลุ่มบุกเบิก ของประวัติศาสตร์สังคมไทย ในลอส  แองเจลิส ซึ่งกาลเวลากำลังจะทำให้กลายเป็นตำนาน เล่าขานกันต่อไป

                     ข้าพเจ้าได้รู้จักคุณแช้มป์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2527  เมื่อรวมน้ำใจน้องพี่สีชมพูจาก คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถอดหัวโขน มาเล่นบทครูอาสาสมัคร สอนนักเรียนโรงเรียนวัดไทยลอสแองเจลิส ตามการริเริ่มของ "หลวงเตี่ย" พระธรรมราชานุวัตร คุณแช้มป์มาแนะนำตนเองพร้อมโดนัทกล่องใหญ่

                     คณะของเราที่มาทำวิจัยและสอนภาษาไทย วัฒนธรรมไทย มีครูใหญ่ สุมน อมรวิวัฒน์  ครูอู๊ด ประภาศรี สีหอำไพ  ครูไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา  ครูสาหร่าย แตงนาวา และ ครูวรรณ ทวีศิลป์ เดินทางมาเป็น "ครูเมืองนอก" สอนเด็กๆ

                     พอถึงปี 2528 ครูอำไพ สุจริตกุล นำคณะมาอบรมอาสาท้องถิ่น ที่วัดธัมมาราม ชิคาโก ตามการริเริ่มของ พระพรหมวชิรญาณ ก็ได้มาตั้งหลักที่แอลเออีก ต่อมาพวกเราก็ได้พบ คุณนวลแข ธาระ สาวอักษรฯจุฬาฯ ที่ถูกหนุ่มวิศวฯ จำรัส ธาระ พิชิตเป็นแช้มป์ในดวงใจ เธอเป็น "classmate" ของพี่สาวข้าพเจ้า คือ อัธยา โกมลกาญจน

                     คุณแช้มป์เป็นผู้มีน้ำใจสีชมพู แจ่มจ้ากว่านิสิตเก่าจุฬาฯอีกมากหลาย ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นนิสิตเก่าในต่างแดนคนใดที่ให้ความสำคัญของความเป็น "จุฬาฯ" ด้วย spirit ที่ยิ่งใหญ่เท่าคุณแช้มป์

                     ภาพความเป็นนักสู้ที่คุณแช้มป์ให้คำจำกัดความชื่อของตนเอง จึงไม่ค่อยได้เห็น มีแต่ภาพ "รุ่นพี่" ที่อาทร ห่วงใย มีน้ำใจโอบเอื้อและมีอารมณ์ขัน เช่น วันหนึ่ง คุณแช้มป์และพี่ปุ๊ นิมนต์พระราชธรรมวิเทศและพระสงฆ์ไปฉันที่ร้านอาหารใกล้วัดพร้อมกับเพื่อน พวกเรานั่งแยกอีกโต๊ะหนึ่ง คุณแช้มป์แยกไปนั่งเดี่ยวเพื่ออุปฐากหลวงพ่อใหญ่ ข้าพเจ้าบอกกับคุณแช้มป์เสียงไม่เบานักว่า "คุณแช้มป์ไม่มีใครคบ  ต้องไปนั่งอยู่คนเดียว"  คุณแช้มป์หัวร่อ บอกว่าใช่ ไม่มีใครคบ

                     คุณแช้มป์หงุดหงิดเพราะขับรถผ่านวัดตอนเช้าๆ จะเห็นครูอาสาจากจุฬาฯ เก็บกวาดลานวัด ขัดถูบันไดศาลา ฟ้องข้าพเจ้าว่า วัดใช้ครูทำงานหนัก ข้าพเจ้าบอกว่า นั่นแหละ เขากำลังปฏิบัติธรรม กำลังทำความสะอาดใจไปด้วย ข้าพเจ้าสอนเด็กๆด้วยคำขวัญที่คิดขึ้นเองว่า "ช่วยกันเก็บขยะ เสียสละเพื่อวัดไทย" เวลาอบรมครู  ครูจุฬาฯต้องไม่ดัดจริต ศิษย์วัดทำอะไร นั่นคือหน้าที่ของครูอาสา เป็นบุญบำเพ็ญที่พึงแสวงหา คุณแช้มป์อยู่ใกล้วัด น่าจะลองทำบ้าง แค่นี้คุณแช้มป์ก็เลิกบ่นเป็นปลิดทิ้ง

                    คุณแช้มป์มีความยึดมั่นใน อาวุโส  ระเบียบ  ประเพณี  สามัคคี  น้ำใจ  ครบถ้วน ข้าพเจ้าเคยนั่งสัมภาษณ์คุณแช้มป์ พบว่าเขาเป็นกลุ่มบุกเบิกที่มีส่วนในการก่อตั้งและอุปถัมภ์ วัดไทย ลอสแองเจลิส ยิ่งเมื่อตอนที่พระมงคลเทพโมลีเป็นเจ้าอาวาส เขาเคารพศรัทธาท่านมาก ท่านย้ายไปตั้งวัดมงคลรัตนารามที่เมืองเบอร์กเลย์ เขาก็ตามไปอุปฐาก อุปถัมภ์วัดมงคลรัตนาราม

                    ตอนข้าพเจ้าช่วยพระวิเทศธรรมกวี วัดพุทธานุสรณ์ จัดกฐินข้ามขอบฟ้าไปวัดทุ่งสว่างอารมณ์ จ. ร้อยเอ็ด คุณแช้มป์อยุ่ในเมืองไทยพอดี ข้าพเจ้าจึงชวนร่วมขบวนไปด้วย บอกว่าจะได้มีความสว่างในอารมณ์ คุณแช้มป์ก็ไปเพราะชอบซื้อวัด

                    พอข้าพเจ้าไปช่วยประชาคมเขตห้วยขวาง เขตที่มีลูกหลานกรรมกรก่อสร้างรถไฟบ้าง ชุมชนแออัดบ้าง คอยเร่ขายพวงมาลัยตามสี่แยก เอกชนจึงรวมตัวกันเข้าช่วยเหลือ จัดตั้งศูนย์เด็กเล็ก ให้การศึกษาด้านการอบรมเลี้ยงดูเด็ก โดยนำอาจารย์จากจุฬาฯไปถ่ายทอดให้ครูในเขต คุณแชมป์รู้ถึงกิจกรรมเหล่านี้ แต่ไม่มีเวลาไปเยี่ยมศูนย์ต่างๆ ถามข้าพเจ้าว่าจะให้ช่วยอะไรได้บ้าง ข้าพเจ้าบอกว่าประชาคมมีครูอาสาจาก กศ.น. แต่เนื่องจากมีหลายศูนย์ น่าจะมีการจัดจ้างครูประจำ ให้เงินเดือนสักเดือนละ 4 พันบาท จัดจ้างเป็นรายปี ก็จะช่วยด้านการศึกษาได้ คุณแช้มป์ตกลงทันที แต่พอรุ่งขึ้นซึ่งใกล้วันกลับอเมริกา เขาเปลี่ยนใจ บอกว่าเอาไว้ทีหลังก่อนแล้วกัน

                    คุณแช้มป์ที่ข้าพเจ้าเห็น จึงเป็นคนใจบุญ แต่ไม่ใช่ใจใหญ่ ไม่ชอบถูกใครเอาเปรียบ ต้องได้รู้ได้เห็นเอง จึงจะเกิดศรัทธา การช่วยใคร จะต้องเห็นว่าจะช่วยได้แค่ไหน เป็นคนที่สมควรช่วยหรือเปล่า ถ้าควรต้องยุติ ก็ต้องยุติ ความคิดของคุณแช้มป์แตกต่างจากคนมากมายในสังคม ใจเป็นอย่างไร กิริยาวาจาก็เป็นอย่างนั้นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม เสแสร้ง

                    เกือบทุกปี เมื่อถึงวันที่ 26 มีนาคม วันคล้ายวันสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช ข้าพเจ้า คุณแช้มป์ และพี่ปุ๊ จะติดต่อกันเสมอ คุณพี่ทั้งสองมักจะชวนให้ข้าพเจ้าไปอยู่แอลเอ เพื่อจะได้เป็นนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯในแอลเอ ข้าพเจ้ารู้สึกขบขันที่ความรักจุฬาฯอย่างแรงกล้า จนนึกว่าเป็น "เจ้าของ" สมาคมฯ จะเที่ยวยกให้ใครก็ได้ ทั้งยังมีสมาคมไทย-อเมริกันอีกที่คุณแช้มป์ห่วงใย

                     ไม่ว่าคุณจำรัส ธาระ จะเป็น "นักสู้" หรือ "นักบุญ" ในสายตาของใคร สายเลือดอยุธยาของลูกผู้ชายชื่อแช้มป์ คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสร้างสรรค์พลังสังคมไทย ข้าพเจ้าเคยท่องกลอนของ พันเอกหม่อมราชวงศ์ เล็ก งอนรถ ให้เขาฟังว่า

                                       เจ้าเป็นลูกเลิศของพ่อแม่       ก็จริงแหล่แต่ชาติสำคัญกว่า
                                    ทางที่ถูกเจ้าเป็นลูกอยุธยา       ก็เหนือกว่าพ่อแม่มาแต่ไร
                                   เจ้าอาจเสียพ่อแม่ในวันหน้า       แต่จะเสียอยุธยาหาได้ไม่
                              เพระฉะนั้นจงรู้จักรักเมืองไทย       รักษาไว้ให้อยู่คู่ฟ้าดิน

                ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย พระพุทธนรเทพศาสดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โปรดส่องทางสว่างอารมณ์ นำผลบุญบำเพ็ญเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคมส่วนรวมที่คุณ จำรัส ธาระ ได้อุปฐาก อุปถัมภ์ อุปการะไว้ครบถ้วน พาดวงวิญญาณสู่สุคติยังสัมปรายภพ ขอกุศลกรรมเป็นพลังแห่งเมตตาธรรม ให้อโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรให้สุดสิ้นแต่ภพนี้ จงอย่ามีความพยาบาทเบียดเบียนกันอีกเลย ขอให้เกิดสันติสุขสืบไปชั่วกาลนานเทอญ

    

                                                                        จาก ครูอู๊ด.....ประภาศรี สีหอำไพ

                                                                                   21 พฤษภาคม 2549

 

              หมายเหตุ   ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพ เป็นภรรยาของ ศาสตราจารย์ บำรุงสุข สีหอำไพ ผู้ก่อตั้งแผนกอิสระ สื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ  ปัจจุบัน ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพ อาศัยอยู่กับลูกๆ ที่มลรัฐเวอร์จิเนีย สหรํฐอเมริกา

 

 

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2006 Chulalongkorn University Alumni Association of California