สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

            ความเป็นมา กีฬาประเพณี  จุฬา-ธรรมศาสตร์               

                                                              ในแคลิฟอร์เนีย

                                                                                                             หญิงน้อย จันทรศุภวงษ์  

     บทความพิเศษนี้ คัดลอกมาจากสูจิบัตร งานกีฬาประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ แคลิฟอร์เนีย ประจำปี 1985             __________________________________________________________________

                     ชาวจุฬาฯในแคลิฟอร์เนียก็เหมือนกับกลุ่มชาวไทยอื่นๆ ในต่างแดนที่ต้องการรวบรวมสมัครพรรคพวก ให้เป็นกลุ่มก้อน เพื่อรำลึกถึงพื้นฐานบ้านเกิด เมืองเดิมตลอดจนสถาบันการศึกษาอันเป็นที่รัก

                 ในปี 1981 หลังจากที่รุ่นพี่จุฬาฯ รุ่นก่อนๆได้จัดรวมกลุ่มกันมาด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ชาวจุฬาฯในแคลิฟอร์เนียได้มารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง และได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมขึ้น ในวันคล้ายวันสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 26 มีนาคม ในปีนั้น นายเสวี เรืองตระกูล ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ

                 เสวีและเพื่อนๆในกลุ่ม และผู้ร่วมงานในสมาคมอย่างใกล้ชิดในเวลานั้น อาทิเช่น สมเกียรติ วณิชพันธ์, อภิชาติ ชิตามิตร, รนัช ศิวทัต, สมเกียรติ จันทรศุภวงษ์, มนูญนัช ไวกาสี เป็นต้น ได้มีความคิดที่จะให้พวกสมาชิก ได้พาครอบครัวและญาติมิตร มาพบปะสังสรรค์ ในบรรยากาศสบายๆ อย่างเป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตอง จึงได้นัดกันชวนให้สมาชิกพาครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหาย นำอาหารมาร่วมรับประทานกันที่ Live Oak Park เมือง Temple City โดยจัดทำเป็นแบบ Pot Luck Party ใครถนัดอะไร ก็ทำมารับประทานกัน การสังสรรค์ก็ดำเนินไปด้วยดี แม้จะมีคนมาร่วมงาน ยังไม่มากมายนักก็ตาม

                 แต่ความคิดที่จะดำเนินการพบปะสังสรรค์กัน ยังมีอยู่ เพียงแต่ว่าเราได้คิดที่จะชวนชาวธรรมศาสตร์ ให้มาร่วมด้วย และมีการแข่งขันฟุตบอลเป็นหลักอย่างที่ทำอยู่ในเมืองไทย จึงได้เอ่ยปากชวนกับชาวธรรมศาสตร์ แต่ทางธรรมศาสตร์บอกว่า ในเวลานั้นยังไม่พร้อม

                 ชาวจุฬาฯยังคงไม่ละเลยความคิดที่จะจัดการสังสรรค์กันในลักษณะกันเองดังกล่าว และก็ยังคงมีความคิดที่จะชวนธรรมศาสตร์ให้เข้ามาร่วม เพื่อให้เกิดความสามัคคีกันในระหว่างสองสถาบันตามประเพณีที่มีการแข่งขัน ฟุตบอลประเพณีในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสมัครสมานระหว่างชาวไทยในต่างแดน ในอันที่อาจจะช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งยังจะได้เป็นแบบอย่างของชาวไทยอื่นๆ ที่อยู่ไกลบ้านอีกด้วย

                 ดังนั้นต่อมาในสมัย น.พ. พิสิษฐ์ มกราภิรมย์ เป็นนายกสมาคมฯ เราก็ได้มีการประชุมกันถึงเรื่องนี้อีก ในที่สุดได้ตกลงกันว่า เราจะเชิญธรรมศาสตร์มาร่วมจัดการสังสรรค์กัน ที่พาร์คใดพาร์คหนึ่ง มีการแข่งขันกีฬากลางแจ้งหลายๆประเภท แต่เน้นลักษณะแข่งขันกันสนุกๆมากกว่าการแข่งขันแบบเอาจริงเอาจัง พร้อมทั้งจะมีการแจกรางวัลแก่ผู้ชนะ เพื่อให้การแข่งขันดูสนุกสนานเพิ่มขึ้นด้วย และประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เราจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพ โดยฝ่ายเจ้าภาพจะต้องเตรียมงานสำหรับงานในวันนั้น จัดเตรียมรางวัล อาหารและเครื่องดื่มพร้อมเพรียง มาเลี้ยง ทั้งจัดทำหนังสือมาแจกแก่ผู้มาร่วมงานอีกด้วย เพื่อเป็นที่ระลึก

                 เราได้เสนอเรื่องไปยังสมาคมธรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นมี นายโชคชัย สิงห์เจริญ เป็นนายก ทางธรรมศาสตร์ตอบรับ งานจึงได้เริ่มขึ้นครั้งแรกในฤดูร้อนของปี 1983

                 ในปีแรก จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพ โดยจัดขึ้นที่ Whittier Narrows Park เมือง Rosemead มีบัญญัติ นพคุณ  พงษ์ฤทธิ์ เศาภายน และวิสาร สิงห์อานศรี ช่วยจัดการด้าน กีฬา  ส่วนรางวัลก็ช่วยกันจัดหามา ส่วนใหญ่ก็ได้จากเบียร์สิงห์ของพี่ เฉลิมชัย-ลาภิณี หาญฐา นั่นเอง อาทิเช่น ที่เขี่ยบุหรี่ตราสิงห์ เป็นต้น

                 งานก็ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีผู้มาร่วมงานประมาณ 200 คน มีการแข่งขันเก็บลูกแอปเปิ้ล ชักเย่อ วิ่งเปี้ยว เป็นต้น ลูกหลานชาวจุฬาฯ และธรรมศาสตร์ ใส่เสื้อ สีชมพูบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง ต่างสนุกสนานกันเป็นการใหญ่ อาหารก็แม่บ้านจุฬาฯ นี่แหละ โชว์ฝีมือกันมาคนละหม้อ คนละถาด

                      มาในปีที่สอง งานเริ่มมีความสนุกสนานเพิ่มขึ้น คราวนี้ธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ จัดงานที่เดิม ในช่วงฤดูร้อนของปี 1984 สมัยนั้น คุณยงเกียรติ ปัตตพงษ์เป็นนายกธรรมศาสตร์ และ น.พ. พิสิษฐ์ มกราภิรมย์ ยังคงตำแหน่งนายกจุฬาฯ

                  ปีนี้ธรรมศาสตร์ จัดอาหารมาอย่างพิเศษ ไก่ย่างเป็นร้อยๆชิ้น ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทานตลอดงาน (เหตุที่ต้องพูดถึงเรื่องอาหารก่อนก็เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แทบจะเรียกว่าใช้กลิ่นไก่ย่างนำทางหาสถานที่ก็ยังได้) อาหารนอกจากนั้นก็มีอีก หลายถาด หลายหม้อ ล้วนเอร็ดอร่อย เครื่องดื่มก็จำได้ว่า ยกถังโค้กขนาดยักษ์ บริการกันอย่างเย็นเจี๊ยบ ตลอดงานเช่นกัน

                  ในด้านกีฬา ก็จัดการแข่งขันในรูปแบบเดิม คือเป็นการร่วมสนุกกันอย่างจริงๆ มีชักเย่อ วิ่งเปี้ยว ทั้งเด็กผู้ใหญ่ เป็นต้น มีคุณคม ชัยสงวนธรรม เป็นผู้จัดการด้านกีฬา ฝ่ายธรรมศาสตร์ คุณบัญญัติ นพคุณ และพงษ์ฤทธิ์ เศาภายน เป็นผู้ควบคุมฝ่ายจุฬาฯ  คุณสมเกียรติ จันทรศุภวงษ์ ได้นำมอเตอร์ไซด์ 4 ล้อ ขนาดเล็ก มาให้ร่วมสนุกสนาน แข่งขันกัน

                  ในด้านรางวัล ทางธรรมศาสตร์ได้จัดเหรียญทอง ผูกติดกับโบว์ ห้อยคอได้ มาอย่างโก้เก๋ ปีนั้นเป็นปีแข่งขันโอลิมปิคที่ลอสแองเจลิส ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ต่างชื่นชมกับเหรียญรางวัลที่ได้รับมา ห้อยคอกันอย่างภาคภูมิใจ

                  ในปี 1984 นี้ เรายังจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอล จุฬา-ธรรมศาสตร์ ในแคลิฟอร์เนียเป็นครั้งแรกอีกด้วย แต่การแข่งขันฟุตบอลของผู้ใหญ่ ก็ไม่แตกต่างไปจากการแข่งขันกีฬาอื่นๆ คือไม่ต้องมีการฝึกซ้อม ใครคิดว่าเล่นเป็น ก็ลงสนามเลย ก็เห็นมีทั้งหนุ่มน้อย หนุ่มมาก ทั้งจุฬาฯ และธรรมศาสตร์อวดสาวๆ (เจ้าเก่า) ว่าเป็นหนุ่มน้อยไปตามๆกัน ในตอนแรกๆก็ลงสนามกันอย่างองอาจ บางคนลงไปสักครู่ก็ต้องออก ออกแล้วเข้าไปใหม่ก็มี แล้วแต่กำลัง แรง ของหนุ่มน้อย ไม่น้อยเหล่านั้น ประตูของทั้งสองฝ่ายก็ได้แก่นายกสมาคมทั้งสองท่านนั่นเอง  คูณยงเกียรติ ปัตตพงษ์ เป็นประตูธรรมศาสตร์  น.พ. พิสิษฐ์ มกราภิรมย์ เป็นประตูจุฬาฯ  ผลการแข่งขัน ปรากฎว่า ธรรมศาสตร์ นำไป 1 ประตู จุฬาฯ ตามไปเก็บคืนได้ 1 ประตู ผลก็เลย เสมอกัน 1-1

                      ปีนั้นธรรมศาสตร์ ได้รับคำชมเชยในการจัดงานมาก มีผู้มาร่วมงานถึง 400-500 คน ทุกคนสนุกสนาน อิ่มหนำสำราญกันอย่างเต็มที่

                  ปี 1985 นี้ จุฬาฯกลับมาเป็นเจ้าภาพอีก เราก็จะพยายามให้ทุกฝ่ายได้รับความสนุกสนานกัน ให้มากที่สุดเช่นที่เคย

                  ประเพณีนี้เป็นสิ่งที่ดี หวังว่า เราชาวจุฬา-ธรรมศาสตร์ ควรจะได้ยึดถือและปฏิบัติกันไปอีกนานเท่านาน

 

 

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2006 Chulalongkorn University Alumni Association of California