สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                               ประกวดนางงาม   

                                                                     ตอนที่ 1

                                                                                                          น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

  

สมัยที่ผมเป็นเด็ก เมื่อเริ่มเข้าฤดูหนาวทุกปี เป็นฤดูที่ชาวไทยจะรื่นเริงกัน จำได้ว่าสมัยผมเป็นเด็ก ๆ นั้น ช่วงนี้จนถึงปีใหม่จะมีงานที่สวนลุมพินีหรือไม่ก็สวนอัมพร มีงานออกร้าน คือมีโชว์ต่าง ๆ ตั้งแต่ของที่ทำจากคุกมาตั้งขาย มีรำวง โขน ประกวดร้องเพลง เรียกว่าจัดได้ดีกว่างานวัดทั่วไป แล้วก็มีการประกวดนางงามหรือเรียกว่า นางสาวไทยประจำปีกัน

นางสาวไทยที่ผมจำได้ก็มี นางสาวประชิต ทองอุไร นางสาว สุธีรา ศรีสมบูรณ์ นางสาวอัมพร บุราลักษณ์ เป็นต้น แล้วต่อมาก็มี นางสาวอมรา อัศวนนท์ ซึ่งเป็นลูกครึ่ง ผมนะไม่เคยรู้ว่าประกวดกันยังไง และที่พูดกันว่าผู้ใหญ่เขาไปดูขาอ่อน ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ตอนไหนของร่างกาย ฟังผู้ใหญ่เขาวิจารณ์ว่าขาสวยนั้น เวลายืนสองขาติดกัน ตั้งแต่ขาอ่อนจนถึงตาตุ่มต้องไม่ให้มีร่องหรือช่องว่าง ถึงเรียกว่าขาสวย  เคยแต่เห็นในหนังสือพิมพ์ เป็นรูปผู้หญิงสวย ๆ แต่งชุดอาบน้ำ แต่ไม่ให้เห็นสะดือ ใส่ส้นสูง และถือร่มกันแดดด้วย ความจำผมก็มีแค่นี้แหละครับ ตั้งแต่เด็กจนแก่ผมหงอกเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เคยไปดูเขาประกวดนางงามที่เมืองไทยเลย เรียกว่าเชยเป็นบ้า โอ้! พูดแล้วหาว่าโกหก เคยครับเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือปีที่แล้วมีการประกวดนาง(สาว) งามของสมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ แล้วอีท่าไหนก็ไม่ทราบคณะกรรมการเขาชวนให้ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเลือกนางงาม ผมก็ทำหน้าที่เลือกอย่างจริง ๆ จัง ๆโดยที่ไม่รู้จักกับนางสาวไหนสักคน ไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่แน่นอนรู้เบอร์ครับ ก็เขาติดเบอร์เอาไว้ที่เสื้อ

วิธีการเลือกของผมก็ไม่เหมือนคนอื่น ก็เพราะผมเคยเรียนวิชากายภาค Anatomyมานี่ครับ และเคยผ่าศพมาก็มากด้วยกัน เลยรู้ว่าสัดส่วนของร่างกายเป็นยังไง และการเติบโตตามสัดส่วนที่ถูกต้องเป็นยังไง เช่นขาย่อมยาวกว่าแขน แล้วตอนหลังยังไปเรียนวิชาพยาธิมาด้วย เลยรู้ว่าอวัยวะส่วนไหนพิการ คนไข้ก็จะแสดงออกทางกิริยา ทางใบหน้า และการเคลื่อนไหวของร่างกายก็อาจจะผิดไปด้วย เรียนวิชาผิวหนังว่าเป็นโรคผิวหนัง ลักษณะเป็นยังไง แต่ลำบากครับ เพราะเดี๋ยวนี้เขาเอาเครื่องสำอางป้ายเสียจนมองไม่เห็นแล้วละครับ ส่วนจะไปให้เขาถอดเสื้อดูเขาก็คงไม่ยอม ก็คงต้องเดา ๆ ไป

มีใครเคยไปดูสัดส่วนของหัวกับลำตัว หรือกับศีร์ษะบ้าง ว่ามันสมส่วนกันหรือเปล่า อ้ายนี่ก็ว่ายากเหมือนกัน บางคนตัวโต แต่หัวเล็ก บางคนหัวโตแต่ตัวเล็ก ก็แล้วแต่ว่าเขาชาติไหนเขานิยมแบบไหนกัน แต่คุณนายบางคนหัวโตอยู่แล้วยังอุตริไปทำผมแบบหัวสิงโตอีกด้วย  มันก็เป็นความซวยของคนที่ไปนั่งอยู่แถวหลังตอนไปดูหนังดูละคร

สุดท้ายผมถึงมาดูใบหน้า โดยดูเจ็ดทวารตามตำราของบู๊ลิ้ม และวิชาโหงวเฮ้ง คือห้าลักษณ์ ดูว่าเข้ากับตำราหรือเปล่า คือแบบกินผัวหรือเปล่า จะร่ำรวยหรือเปล่า สุขภาพทางเครื่องด้านในเป็นยังไง จะมีลูกได้สะดวกหรือเปล่า ผมพูดจริง ๆ นะครับ มิได้ตลกโดยไม่บอกกล่าว อย่างเช่นคนเป็นโรคกระดูกอ่อนตอนเด็ก ที่เรียกว่า Rickets กระดูกเชิงกรานจะไม่ปรกติ เวลาคลอดลูกจะลำบาก เด็กอาจตายได้ คนพวกนี้ขามักจะโก่งด้วย คือยืนขาชิดกัน หัวเข่าจะไม่ชนกัน เหล่านี้เป็นต้น นอกนี้ยังต้องใช้วิชาที่ต้องติดตามทันกับโลก Fashion ว่าสมัยนี้เขาชอบใบหน้าแบบไหน แบบจูเลีย โรเบิร์ต อย่างนี้ปากกว้างมาก กินผัวได้ทั้งคน จำพวกใช้ผัวเปลืองกว่ากระดาษเช็ดก้น ส่วนโซเฟีย โลเรน  หรือแองเจล่า โจลี ริมฝีปากหนาหน่อย คือมีเนื้อเต็ม  แต่ไม่เท่ากับของคุณมืดท่าน ส่วนคางนั้นก็มีต่าง ๆ กัน เช่นแบบสี่เหลี่ยมเหมือนตระกูลแคนาดี้ หรือรูปไข่ไก่แบบเอลิซาเบธ เทเล่อร์ คางสั้นแบบของหมอสุวัฒน์ (แบบนี้ไม่มีวันรวย) จมูกก็ไม่ใช่เรื่องย่อย เช่นอย่างบาบาร่า สไตรเซนด์ มีจมูกแบบยิว ตาก็ดูว่าเป็นแบบชาวจีนหรือเกาหลี คือปลายตาจะเชิดขึ้นหน่อย เวลาเบิ่งตาเต็มที่ก็ยังไม่เป็นตาดำหมด ไม่เหมือนฝรั่งเขาจะเห็นตาดำหมดเลยเวลาที่เขาเบิ่งตาธรรมดา ๆ

ขอตัดบทหน่อย เรื่องกินผัวของชาวจีนเขา เขาเรียกผู้หญิงพวกนี้ว่าเสือขาว คือแต่งมาแล้วจะทำให้ครอบครัวขาดการสืบตระกูลได้ ก็เท่ากับสร้างความหายนะแก่ตระกูลเขา อ้ายนี่ยิ่งกว่าฆ่าผัวเสียอีก นางเสือขาวนี้ เขาหมายถึงหญิงที่ไม่มีขนสวรรค์เลย Pubic Hair อันที่จริงเขาก็พูดถึง เพราะมันอาจเป็นโรคของฮอร์โมนบางชนิด หรือเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ หรือตัวโครโมโซมผิดปรกติ แล้วก็ทำให้ไข่ไม่ตกตามปรกติเลยไม่มีลูกสืบตระกูล แล้วเวลาเลือกคู่คงไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาไม่มีขนสวรรค์ แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าไปเจอวันแต่งงาน ใช้งานเสร็จแล้วคืนแม่ยายได้ เพราะเอาของไม่เป็นมงคลมาให้อย่างนี้ อั๊วก็ซิบผายซี่ว้า

ผมนั่งนึกแล้วก็มองแต่ละนางสาวว่าจะเอาแฟชั่นที่ทันสมัยแบบไหนกันแน่ สุดท้ายก็ตัดสินเอาแบบหน้าคนไทยนี่แหละ เหมาะสมที่สุด ดังนั้นหน้าตาแบบฝรั่งก็ถูกผมคัดออก

แล้วผมก็มาฟังที่เสียงว่ากล่องเสียงเครื่องทำเสียง เช่นเพดานปาก ลิ้ม ฟัน ริมผีปาก เพดานปาก ลิ้นไก่สั้นไหม Uvula ปอดคือเวลาหายใจมีเสียงเหมือนนกหวีดเพราะเป็นหืด เขามีปัญหาหรือเปล่า เสียงที่เปล่งออกมาจะผ่านกล่องเสียง ฝรั่งเรียกว่า Vocal Cord มันตึงหรือหย่อนหนาดไหน เสียงผู้หญิงที่เพราะจะต้องมีแหลม และก็ก้องพอสมควร การเปล่งเสียงชัดหรือเปล่า คงไม่ต้องใสเหมือนนกคีรีบูนหรอก แต่อย่าห้าวเสียจนผิดความเป็นหญิง ถ้าสงสัยหนักก็ให้หมอสตรีตรวจเสียแล้ว แต่อย่างน้อยก็ต้องสังเกตว่าลูกกระเดือกที่คอมันนูนออกมา ที่เขาเรียกว่า Adam's Apple มันโตหรือเปล่า เพราะปีนี้มีการโวยวายว่านางสาวฝรั่งเศสเขาเปลี่ยนเพศมาจากผู้ชาย  ฟังว่าเวลาพูด คำพูดออกมาชัดหรือเปล่า

ถ้าพูดไม่ชัดในบางคำเพราะลิ้นไก่สั้น เพดานโหว่ ลิ้นโตคับปาก อย่างนี้จะพูดไม่ชัด ส่วนจะพูดไทยชัดไม่ชัด ย่อมเอาเป็นเรื่องสำคัญไม่ได้ เพราะเด็กเขาเกิดประเทศนี้ จะเอาภาษาไทย อะไรกับเขา กินส้มตำได้ก็นับว่าเก่งแล้ว  และทุกคนก็มีการศึกษาอย่างดี คงไม่ต้องไปวัดไอคิวเขาละ

ส่วนเส้นผมนั้นมันก็คงหนาพอ ๆ กัน เพราะยังสาวอยู่ ทรงผมจะสวยแบบไหนก็อยู่ที่คนแต่งผม สำคัญว่าตอนอยู่บนเวทีประกวดนั้น อย่าเกาหนังศีรษะบ่อย และอย่าให้มีรังแคตกลงบนเสื้อสีเข้มเหมือนหิมะร่วงเป็นใช้ได้

คะแนนที่สำคัญที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือการยิ้ม อันนี้มันก็เกี่ยวกับสุขอนามัยของฟันมากอยู่ เพราะสมัยนี้เด็กสาวที่นี่เขาดัดฟันเสียเรียบทุกคน พวกนี้เขาเวลายิ้มจะให้เห็นฟันกันทั้งนั้น นอกจากฟันจะต้องเรียบ ขาว ลักษณะซี่ของฟันกับปากก็ต้องสมส่วนกันด้วย บางคนก็ซี่เล็ก บางคนก็ใหญ่ ที่เรียกว่าฟันใหญ่เหมือนม้า เวลายิ้มนี่ก็ต้องดูว่ายิ้มได้ทนขนาดไหน ยิ้มแหย ๆ ตายิ้มไปด้วยหรือเปล่า ยิ้มแยกเขี้ยว ยิ้มชม้อยตา แน่นอนการมีรักยิ้มด้วยก็ยิ่งดี

เห็นหรือยังครับ แค่นี้เองผมก็ให้คะแนน เขาได้แล้ว และก็ปรากฏว่าคนที่ผมให้คะแนนมากที่สุดเขาได้เป็นนางสาวงามจริง ๆ ด้วย แสดงว่าวิชาแพทย์ที่ผมไปเรียนมา มันใช้ได้ดีทีเดียว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูขาอ่อนเขาสักนิด

การที่พ่อแม่บางคนน้อยใจที่ลูกสาวไม่ได้เป็นนางงามนั้น เนื่องเพราะว่าเขาฟิคส์กันแล้ว หรือคือใส่สตังค์มาก เช่นเขาขายลูกโป่งหรือใบรัฟเฟิลให้พ่อแม่ได้เป็นพัน ๆ อย่างนี้เขาก็ได้ไปแน่นอน หรือตัวจ้าวแม่จัดประกวดนางงามเขาได้รับมอบหมายมาเรียบร้อยแล้ว ทำให้เวลารวมคะแนนจากกรรมการ นับผิดกันได้

เมื่อเล่าเรื่องของผมแล้ว ผมก็จะเล่าเรื่องฝรั่งประกวดนางงามบ้าง สนุกนะครับจะบอกให้ ถ้าไม่สนุกไปเอาคืนจากบรรณาธิการได้

เรื่องมันเกิดมาที่ไหนก็ไม่มีใครทราบ ก็จะทราบได้อย่างไรได้ เพราะมันเป็นเทพนิยาย ของประเทศกรีซ เขา(ส่วนประชากรเขาเราเรียกว่า กรีก) แต่ก็คงจะเดาได้ว่าอยู่แถวเขาสูงโอลิมปิค แล้วเกิดเมื่อไรก็ไม่รู้เสียด้วยซี แต่ก็คงจะเดาได้อีกอย่างมั่ว ๆ ว่ามันเกิดก่อนสงครามเมืองทรอย Troy และเทพนิยายเรื่องนี้ก็เล่าต่อ ๆ กันมาโดยไม่ขาดช่วง และมันไปเกี่ยวกับสงครามที่ทำกันเป็นเวลาร่วมสิบปี ตอนสามหรือสี่พันปีที่แล้ว แถมมันไปเกี่ยวกับสงครามและบ้านเมืองที่กล่าวถึงในเทพนิยายนั้นเขาพบว่ามีจริงเสียด้วย ส่วนเรื่องเทพนิยายจะจริงหรือเปล่าก็ฟังผมฝอยไปก็แล้วกัน

เทพนิยายเรื่องนี้เขียน หรือบันทึกโดยนาย Homer และบันทึกอยู่ในหนังสือชื่อ Iliad อิเลียด และมีเล่มต่อแถมท้ายคือ Odyssey ซึ่งกล่าวถึงการผจญภัยของวีรบุรุษที่ชื่อว่า ยูลีซิซ ตามภาษาของโรมัน แต่ภาษากรีกเขาอ่านว่า Odysseus

เนื่องจากจักรวรรดิโรมันเมื่อรบชนะประเทศกรีซ ก็ไปรับเอาพระเจ้าของกรีกมาบูชาประจำชาติเขา เลยเปลี่ยนชื่อเทพเจ้าทั้งหลายเป็นชื่อโรมันเสีย เวลานักเขียนอังกฤษเขาเอาเรื่องพวกนี้มาแปล บางคนก็ใช้ชื่อเรียกแบบกรีก และบางคนก็เอาแบบโรมัน  เช่นพระเจ้า Jupiter จูปีเตอร์ นี่เรียกแบบโรมัน ส่วนกรีกจะเรียกว่า Zeus ซูส, นาง Venus นั้น ทางกรีกเรียกว่า Aphrodite อโฟรดิตี (Aphrodisiac แปลว่ายาปลุกเซ็กส์) นางสาว Meneva ก็มาจาก  Athena  Hera มาจาก Juno บางทีจะทำให้ผู้อ่านงงได้ เพื่อความสะดวก ผมจะพยายามใช้แต่ชื่อที่เรียกกันแบบชาวโรมันเท่านั้น

บนสรวงสวรรค์ของพระเจ้ากรีกทั้งหลายย่อมมาชุมนุมและเมาท์กันเป็นที่สนุกสนานกัน  ที่ยอดเขาโอลิมปุส ในประเทศกรีซ ผู้ที่เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์นี้ก็คือพระเจ้า Jupiter

การประกวดนางงาม ที่เรียกว่านางงามนั้นเพราะไม่ใช่นางสาวกัน คือเป็นนางเสียสองคน และนางสาวเพียงคนเดียว

          เรื่องมันเกิดจากความน้อยใจและเจ็บใจของนางเทพองค์หนึ่ง ที่ชาวเทพเขาไม่ค่อยจะยินดีต้อนรับเท่าไหร่ เพราะมีนิสัยห่าม ๆ ไม่เต็มเต็ง เพราะไปไหนก็ชอบไปทะเลาะกับเขายัน จนชาวเทพเขาเอือมระอา นางเทพนี่หน้าตาแถมอัปลักษณ์ด้วย สันดานเลว เทพหมาที่ไหนใครจะไปคบค้าด้วย และก็คงไม่มีผัวเทพกับเขา นางเทพนี่ชื่อว่า Discord ชื่อก็บอกแล้วว่าวุ่นวาย ไปงานไหนก็ทำเสียจนงานพัง น่าจะเรียกเสียใหม่ว่า อีนางเทพ บ่อนแตก

           

                                                                                                            อ่านต่อ ตอนที่ 2  

                                                           กลับไป มุมนักอ่าน พบ นักเขียน             

    

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2008 Chulalongkorn University Alumni Association of California