สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                    Common Cold and Influenza

.                                                                                   ตอนที่ 1

                                                                                                          น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

 

ถ้าคนไหน ไม่เคยเป็นหวัดในชีวิตเลย คงเป็นบุคคลที่แปลกมนุษย์กว่าเพื่อน หวัดธรรมดา Viral upper respiratory infection VURI แน่นอนมันเกิดจากไวรัส Virusนี้ เกิดราว ๆ 3-8 ครั้งต่อปี แน่นอนเด็กจะเป็นบ่อยครั้งกว่า เพราะอยู่ในโรงเรียนมักจะติดต่อกันเองระหว่างเพื่อน และร่างกายยังไม่มีความต้านทานดีพอ

ตัวไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดเหล่านี้มีพันธุ์ต่าง ๆ ที่รู้ ๆ กันกว่าสองร้อยกว่าชนิด นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ผสม พันธุ์ ทางเป็นอีกร้อย ๆ พวกที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง ตัวสำคัญก็มี Rhinivirses, Adenoviruses และตัวไม่เกี่ยวข้องก็ทำให้เกิดอาการคล้ายกันได้หลายตัว ในผู้ใหญ่กว่า 30-50% ไม่สามารถหาเชื้อไวรัสได้

การติดโรคเป็นไปได้ง่ายมาก ส่วนมากจากละอองไอของคนที่เป็นโดยการจาม เขาวัดกันไว้ว่า การจามละอองน้ำมูกน้ำลายจะกระจายไปด้วยความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ถ้านั่นอยู่ในห้องเดียวกัน ก็ไม่มีทางหลบหนีได้ การติดทางผิวหนังเช่นจับมือ หรือทางตาจากมือที่ติดหวัด ดังนั้นการจับมือกับคนที่เป็นหวัดควรต้องล้างมือด้วยสบู่ เพราะพบว่าเชื้อนี่อาจติดผิวหนังถืงสี่วัน

อาการ หวัดธรรมดาจะแสดงออกหนึ่งถึงสามวัน และอาการจะหมดไปราว ๆ หนึ่งถึงสองอาทิตย์ นอกเสียจากมีอาการแทรกซ้อนเช่นจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ทอนซิล ไซนัส หลอดลมส่วนล่างอักเสบ ปอดบวม หรือหืด ก็อาจจะนานหน่อย พวกติดเชื้อแบคทีเรีย ควรจะหาหมอได้ นอกเสียจากว่ายอมทน ถ้าไม่หาย ภายในสามสี่วันก็ต้องหาหมอแน่นอน

          อาการหวัดส่วนมากจะเริ่มด้วย ปวดหัว น้ำมูกไหล จมูกตัน อาการจาม เจ็บคอ ไอแค็ก ๆ นอกนี้ก็อาจมีอาการปวดหัว แน่นหน้าอก ไข้ ในเด็กอาจจะสูงตอนกลางคืน

การรักษา

โรคหวัดธรรมดามักจะจาม จริง ๆ นะครับ การจามนี่มันเป็นการป้องกันตัว ไม่ให้เชื้อโรค สาร หรือความหนาวเข้าไปในปอด อาการจามนี่มันเกิดจากรีเฟลก Reflex เมื่อมีของแปลกปลอม  คืออะไรที่ระคายเคือง การเปลี่ยนแปลงของอากาศ สารทำให้แพ้  ทั้งหลายพวกนี้ จะทำให้เยื่อจมูกเกิดปฏิกิริยา ก่อนจะมีโอกาสเข้าไปทำอันตรายต่อปอด เป็นการป้องกันไปในตัวโดยจามออกมา ปฏิกิริยานี้จะส่งสัญญาณไปในสมอง เกี่ยวกับการดมกลิ่น แล้วก็ผ่านไปที่ศูนย์การหายใจ ขบวนการที่เกิดขึ้น สมองจะส่งคำสั่งไปที่กล้ามเนื้อควบคุมหายใจ โดยการหายใจเข้าลึก ๆ แต่ขณะเดียวกัน จะรีบปิดฝาท่อหายใจ Glottis กลอททิส(ที่อยู่เหนือกล่องเสีย) ไม่ให้อากาศออก แล้วกล้ามเนื้อทั้งหลายที่เกี่ยวกับการหายใจออก ก็บีบตัวอย่างแรงและกระทันหัน เช่นกระบังลม กล้ามเนื้อท้อง กล้ามเนื้อซี่โครง เรียกว่าเอากันเต็มที่ และต้องพร้อมกัน แล้วก็ดันฝาปิดท่อหายใจให้เปิดออก นั่นก็เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับละอองของน้ำมูกน้ำลายและไอน้ำจากปอด ด้วยความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (ผมนะเคยโดนจัง ๆ มาหลายที ตอนตรวจคนไข้ เหมือนถูกเครื่องเป่าผมอย่างแรงพ่นเอาเข้า ผมต้องรีบไปล้างเอาน้ำมูกน้ำลายออก แต่ที่เข้าปอดผมไป ก็คงล้างไม่ออก เห็นหรือยังว่าหมอบางครั้งก็ตายง่าย ๆ จากเชื้อโรคของคนอื่นเหมือนกัน ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง และไม่ได้ฉีดยาป้องกันไว้) นี่แหละคือวิธีการกระจายเชื้อโรคหวัดอย่างได้ผลที่สุด การจามหลาย ๆ ครั้งมันถึงปวดท้องปวดซี่โครงไงครับ

อยากรู้จริง ๆ ว่าที่ผมพูดจริงหรือเปล่าก็เอาขนไก่หรือกระดาษทิชชูบาง ๆ แหย่เยื่อจมูกดูเอง แล้วสังเกตุว่าเหมือนดังที่ผมบรรยายหรือเปล่า ถ้าผิดก็มาเอาสตางค์คืนได้

จะต้องเข้าใจนิดหน่อยเกี่ยวกับไข้หวัดกับไข้หวัดใหญ่สักหน่อย ไข้หวัดธรรมดาเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง ตัวแรกก็เกิดจากเชื้อไวรัส มีชื่อว่า  Rhinoviruses, Adenoviruses,หวัดธรรมดานี่จะมีอาการจาม น้ำมูกใส ๆ ไอแห้ง ๆ มีไข้นิดหน่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรง ทำงานได้ ถ้าไม่กินยาพวกแก้แพ้ที่เข้า Antihistamine แอนตี้ฮิสตามิน เพราะพวกนี้ทำให้ง่วงนอนได้ หวัดธรรมดาจากไวรัส อาจระบาดภายในบ้านเท่านั้น ไม่เป็นเมืองเป็นรัฐแบบไข้หวัดใหญ่ และอาการก็ไม่รุนแรง ทุกคนก็เคยเป็นกันมาแล้ว เป็นแค่สองสามวันก็หาย นอกเสียจากมีการแทรก

มีคนไข้มักจะมีคำถามว่า ชอบเป็นหวัดตอนเช้า เพราะจามตั้งหลายครั้งทุกเช้าเป็นประจำ ด้วยชอบออกไปเดินดูและรดน้ำต้นไม้ในสวนหลังบ้าน แล้วก็ไม่ใส่เสื้อให้หนาพอสมควร พออากาศอุ่นขึ้นก็หายหวัด อยากให้ฉีดยาแก้หวัด ผมถามอาการ ตรวจดูอาการแล้ว ก็บอกคนไข้ว่าโรคของคุณนี่ หมอรักษาไม่หายหรอก คนที่จะรักษาคุณได้ก็ต้องเป็นตัวคุณนั่นแหละ (คนไข้คงคิดว่าจะให้เขาไปไหว้เจ้าหรือทำบุญวัดไหนสักแห่ง แก้โรคของเขา) โดยต้องใส่เสื้ออุ่น ๆ หน่อย หรือเอาผ้าปิดจมูกให้อุ่น ๆ หน่อย ตอนเข้าไปในสวน โดยเฉพาะตอนหน้าหนาว พวกนี้ไม่ใช่หวัดแต่เป็นการระคายเคืองจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศในช่องจมูกเท่านั้นเอง ผมจะอธิบายให้ฟังในเรื่องของแพ้อากาศทางจมูกตอนหลัง

ไม่มียาวิเศษ มีแต่ยาแก้อาการ แต่ยาพวกแก้ แล้วถ้าจะมียาแก้น้ำมูกไหลหรือการจาม พวกนี้หาซื้อได้ตามหิ้ง เช่น Sudafed ,Decongestant, Dimetane-DC  ฮิสตามินเช่น Benedryl, Dimetane, Decongen หรือ Robitussin DM or DS และส่วนมากที่ตั้งขายบนหิ้งก็มีทั้ง แก้แพ้ แก้อาการจามหรือบวม หายใจไม่คล่อง มักจะมีอักษร DC ติดท้าย

ถ้าเด็กมีไข้ตอนกลางคืนก็เอาผ้าชุบน้ำอุ่นนิดหน่อยเช็ดตัว อย่าถึงกับเอาน้ำแข็งเช็ดเลย จะทำให้ร้องไห้มาก น้ำมูกน้ำตาน้ำลายจะไหลมากจะทำให้หายใจลำบาก หรือถ้าจะให้ยาพวก Tylenol pediatric หรือ Acetaminophen น้ำก็ได้ มันยาอันเดียวกันนั่นแหละ แก้ไข้  ห้ามใช้  Aspirin เด็ดขาด อาจจะทำให้สมองบวมได้ ตับอักเสบ ถึงกับตายได้จาก Reye syndrome

นอกจากยากิน ก็มียาพ่นจมูก แก้อาการคันจมูกและเยื่อจมูกตัน พวกนี้ได้ผลดีภายในสามวัน หลังสามวัน แทนที่จะช่วยจะทำให้อาการแย่ลง เขาเรียกว่า Rhinitis medicamentosa หยุดใช้พ่นสักสองอาทิตย์ กินยาแทน ยาที่มี Antihistamine จะทำให้ง่วงนอน ระวังเวลาขับรถ แต่มียาตัวหนึ่งเรียกว่า Sudafed แก้บวมและน้ำมูกไหล หาซื้อได้ตามหิ้ง

ยาอมแก้เจ็บคอ หรือบ้วนคอด้วยน้ำเกลืออ่อน ๆ กินอาหารพวกซูป นอนพักผ่อน ลางานสองถึงสามวัน ก็จะทำให้โรคและอาการดีขึ้นได้ อย่าลืมถ้าอาการไม่ดีขึ้นและเลวลงไอจนหืดขึ้นคอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก อาจต้องหาหมอหรือเข้าโรงพยาบาลได้ เพราะมันเป็นอาการปอดบวม

          เวลาใครจาม เราควรพูดว่า เกซูลต์ไถ่ หรือ God bless you ! 

 

                                                                                                                                        อ่านต่อ ตอนที่ 2

                                                                          

                                                         กลับไป มุมนักอ่าน พบ นักเขียน    

    

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2008 Chulalongkorn University Alumni Association of California