สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                             น้ำมันของพระเจ้า

                                                                     ตอนที่ 1

                                                                                                          น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

              

เมื่อรัฐเอเธนส์ถูกประเทศเปอร์เซียบุกเผาทั้งเมือง Acropolis ซึ่งเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ก็เจอชะตาเดียวกัน ถูกเผาจนราบคาบเมื่อปี 480 BC แล้วปีต่อมาสหรัฐกรีกก็ขยี้กองทัพเรือของเปอร์เซียจนราบคาบ เป็นการสิ้นสุดการรุกรานของเปอร์เซียแต่นั้นมา

เมื่อสถานศักดิ์สิทธิ์ Acropolis แห่งนี้ถูกทำลายได้ ชาวเอเธนส์ที่ร่ำรวยก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ และโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ก็ใหญ่ที่สุดของทั่วประเทศกรีก ให้ชื่อว่า Parthenon แถมพระเจ้าที่ประจำโบสถ์คือพระนาง Athena เอธีน่า หรือที่เขายกย่องว่าเป็น Virgin goddess นั้นก็เป็นองค์ที่หุ้มด้วยทองคำทั้งตัว ยกเว้นแต่ใบหน้าและมือที่ขาวนั้น แกะสลักมาจากงาช้างทั้งท่อน เป็นพระรูปยืนส่วนมือซ้ายถือหอกและมีโล่วางอยู่ข้างกาย ส่วนมือขวามีเทวดาแห่งชัยชนะยืนอยู่บนฝ่ามือ เป็นการสร้างบารมีของพระนางครั้งใหม่ หลังจากองค์เดิมถูกทำลายไปโดยฝีมือของชาวเปอร์เซีย

เมืองหรือรัฐเอเธนส์นี้ได้ชื่อนี้ก็เพราะใช้พระนามของพระนาง เอเธน่า Athenaนี่เอง ด้วยตอนสร้างภูเขาอาครอปโปลิสให้เป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรกนั้น ชาวเมืองต่างก็ต้องอัญเชิญเทพพระเจ้าองค์ใดองหนึ่งที่มีความสำคัญต่อรัฐนั้นมาอยู่เป็นประจำเมือง แล้วจะเลือกใครเอ่ย ก็มีอยู่แค่สององค์ที่พอจะเข้ารอบ องค์แรกก็คือพระนางเจ้า เอธีน่า ผู้ซึ่งเป็นพระเจ้าแห่งความรู้ ความฉลาด และเป็นนักรบและยังไม่เคยแพ้ใคร ส่วนอีกองค์นั้นก็เป็นพระเจ้าปกครองท้องทะเล คือพระเจ้า Poseidon หรือ Neptune (ชื่อของดวงดาวพระเคราะห์ เกือบสุดท้ายก่อนดวง Pluto ไงละครับ) เพราะชาวเอเธนร่ำรวยได้ก็ต้องอาศัยการค้าขายทางทะเล

วิธีคัดเลือกพระเจ้าประจำเมืองก็คือให้พระเจ้าทั้งสององค์มอบของขวัญประจำเมืองสักอย่างแก่ชาวเมือง พระนางเจ้าก็เอาหอกแทงลงไปที่หน้าสถานศักดิ์สิทธิ์ พลันเกิดต้น Olive หรือต้นลูกมะกอกฝรั่งและเต็มสะพรั่งด้วยลูกมะกอกฝรั่ง ส่วนพระเจ้า Neptune ซึ่งเป็นพระเจ้าคุ้มครองความปลอดภัยแก่ชาวเรือ ก็เอาสามง่ามแทงลงไปที่หน้าสถานที่นี้ แต่คนละด้านของโบสถ์ ก็พลันมีบ่อน้ำจืดเกิดขึ้น แต่น้ำจืดดูขุ่นไปหน่อย ชาวเมืองก็เลยลงเสียงเลือกเอาพระนางเจ้าเอธินน่าเป็นพระเจ้าประจำรัฐ และตั้งชื่อรัฐตามชื่อของพระนางเป็นรัฐ Athens เอเธนส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ส่วนปลายทางใต้ของประเทศกรีซ                                                                  

เล่าเสียเมื่อยมือไปเลย ก็เพื่อจะให้รู้ว่าชาวกรีกนั้นเขาบูชาต้นโอลีฟ (olive) ขนาดไหน เพราะเป็นต้นไม้ที่พระเจ้าประทานมาให้ และได้ทำความร่ำรวยให้ประเทศกรีซและทำให้กรีซโบราณเป็นเจ้าทะเลปกครองพื้นที่รอบขอบทะเล เมดิเตอเรเนี่ยน Mediterranean เคยมีกฎหมายห้ามตัดต้นโอลิฟนี่ โทษหนักขนาดประหารชีวิตทีเดียว

ต้นไม้โอลิฟนี่ให้ผลลูกมะกอก ขนาดยาวหนึ่งนิ้ว ตอนแก่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ เนื้อของมันให้น้ำมันเปอร์เซนต์สูงมาก เขาจะเอาเนื้อมาบีบอัดโดยเครื่อง Cold press น้ำมันที่ได้ครั้งแรกเป็นน้ำมันบริสุทธิ์ เรียกว่า Virgin Oil (ไม่ได้เกี่ยวกับสาวบริสุทธิ์สักหน่อย แต่อาจแปลว่าถูกบีบอัดครั้งแรก) เดี๋ยวนี้ยังมีที่พรหมจรรย์กว่านั้นเขาเรียกว่า Extra virgin เขาเอาไว้ใส่ซาหลัด ใช้ทำอาหาร ใส่ขนมปัง จิ้มขนมปังกิน โดยเอาน้ำมันนี้ผสมกับ Balsamic บางครั้งถึงกับกินเฉย ๆ วันละสองช้อนชา แล้วก็ตามด้วยเหล้าองุ่นหนึ่งถ้วย ทำให้เลือดลมเดินสะดวก ชาวกรีกโบราณเมื่อเทียบกับคนประเทศอื่น เช่นพวกไวกิ้ง จะพบว่ายืนยาวกว่ามาก น้ำมันที่บีบครั้งที่สองเรียกว่า Second press เอาไว้เลี้ยงคนจน เช่นทาส หรือเลี้ยงสัตว์ ใช้เป็นน้ำมันจุดไฟ หรือผสมเป็นครีมทาหน้า เพราะไม่เกิดอาการแพ้ ครั้งทีสามสี่ทำเป็นน้ำมันหล่อลื่น กากของมันก็เอามาผสมกับน้ำมันไว้เลี้ยงสัตว์

ความสำคัญอีกอย่างที่ต้องฝอยกันหน่อย ในสมัยนั้นมีการแข่งขันกีฬาระหว่างรัฐต่าง ๆ ทุกสี่ปี เพื่อบูชาพระเจ้าแห่งเขาโอลิมเปีย เขาเลยเรียกว่ากีฬาโอลิมปิคและคนที่เป็นคนชนะแต่ละประเภท เขานับถือว่าเป็นฮีโร่ทีเดียว รางวัลที่ได้รับคือพวงหรีดคาดที่หัวที่ทำจากกิ่งไม้โอลิฟนี่แหละ และน้ำมันโอลิฟสี่ไห นั่นแหละเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้รับ ฮีโร่จะได้รับรางวัลเป็นน้ำมันโอลิฟอย่างดีที่สุด น้ำมันสี่ไหนี้โดยมากจะแบ่งครึ่งเพื่อเอากลับบ้าน ถือว่าเป็นน้ำมันที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดต้องเอาไปให้ญาติพี่น้อง ส่วนอีกครึ่งเอาไว้บูชาพระเจ้า ณ สถานที่แข่งนี้จะมีพระรูปปิดทองของเจ้าซูสอยู่ในโบสถ์ที่โอลิมเปียนี่ เพราะไฟที่จุดบูชาพระเจ้าบนที่บูชาจะมีนางพรหมจรรย์คอยเฝ้าดูแลอยู่ จะดับไม่ได้ ถ้าเกิดดับนางสาวจะถูกลงโทษอย่างหนัก น้ำมันที่แบ่งมาจากนักกีฬาและเจ้าประจำรัฐต่าง ๆ ที่นำมาถวายบูชามีอยู่รายล้อมโบสถ์เต็มไปหมด นี่แหละครับความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมันโอลิฟ (ไหที่บรรจุนี่จะมีก้นแหลม ทั้งไหจะตั้งอยู่บนเครื่องรองรับสามขา และรอบ ๆ ไหจะมีรูปภาพต่าง ๆ เขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องราวของชาวกรีกสมัยนั้น เราถึงได้รู้สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาก็จากไหเก่า ๆ พวกนี้แหละ)

 

                                                                                                                                อ่านต่อ ตอนที่ 2

 

   หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2005 Chulalongkorn University Alumni Association of California