สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                     ประเทศไทยที่รักของผม

                              ตอนที่ 1

                                                                     

                                                                                                          น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

12 มีนาคม 2006

 

สวัสดีเพื่อนที่รัก

ผมได้ส่ง vcd มาให้สองชุด และเพลงไทยอีกหนึ่งแผ่น เพื่อการเรียนรู้ถึงเหตุการณ์ในเมืองไทย

ทีแรกผมก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องเมืองไทยเหมือนหมอคนอื่น ๆ เพราะยุ่งแต่หาเงินอยู่ แล้วเราก็มีนายกทักษิณคนเก่งปกครองอยู่ แล้วจะไปห่วงอะไรกัน เดี๋ยวทุกคนก็จะร่ำรวยไปเอง อย่างที่ท่านเคยสัญญากันไว้ จนผมกลับไปเที่ยวเมืองไทยเมื่อเดือนพ.ย. ก็มีญาติเขาเอา vcd มาให้ บอกให้เปิดดูเล่น ๆ ชุดที่ที่เรียกว่าชุดสัปดาห์สัญจรของนายสนธิ ก่อนจากไปได้ด่านายกทักษิณอีกสักพักใหญ่ ๆ ผมก็คิดว่าญาติผมนี่คงสติไม่ค่อยดี ไม่ด่าเขาทำไม คนดี ๆ อย่างนายกทักษิณนั้นหายาก รูปก็หล่อ เมียก็สวย

เมื่อมีเวลาว่างก็เปิดดู ดูแล้วทำให้รู้อะไรต่ออะไรต่าง ๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นต่อประเทศไทย เคยแต่คิดว่าเมืองไทยมีแต่ความเจริญและกำลังเปล่งแสงสว่างไปทั่วในเอเซีย ที่แท้มันมีอะไรเน่า ๆ และดำมืดแอบแฝงอย่างมากมาย

ผมเคยรู้สึกตัวว่าตัวเองที่เคยฉลาดที่แท้ก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่าชาวไร่ชาวนาสักเท่าไหร่ เพราะเรารู้แต่ข่าวที่รัฐบาลป้อนให้เรารู้เท่านั้น โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ในอเมริกายิ่งแล้วใหญ่ เพราะลอกข่าวมาจากเมืองไทยทั้งหมด ไม่มีข่าวเลวร้ายของนายกเลย

ที่เราไม่รู้ ไม่เห็น และไม่ให้คิด ด้วยนายทักษิณได้บังคับให้ ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ที่รัฐบาลควบคุม หรือที่ตัวเองครองอยู่ ให้ลงแต่ข่าวด้านบวกที่น่าชื่นชมเท่านั้น ถ้าหนังสือพิมพ์เอกชนฉบับไหนลงข่าวด้านลบก็โดนการบังคับข่มขู่หรือส่งสรรพการตรวจภาษี กระทั่งมีการวางระเบิดเป็นการขู่

ผมไม่ต้องเป็นนักวิชาอะไรหรอก ตอนนี้ก็เห็นชัดในข่าวทุกแห่งหนในเมืองไทยว่า นายทักษิณมีความผิดฐานไม่ยอมจ่ายภาษีที่ขายหุ้นให้ประเทศสิงคโปร์ แถมเอาดาวเทียมที่ผูกขาดกับรัฐบาลไปขายให้ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีโค๊ดของทางราชการอยู่เต็ม (เหมือนเอาโค๊ดลับ และ pass word ในแบงค์ของเราไปครองไว้) โดยอ้างว่าถูกต้องตามกฎหมายที่ตัวเองสั่งให้สภาแก้ไข เพื่อกิจการค้าและภาษีการค้าของเขา เรื่องที่ไม่ต้องเสียภาษีนั้นที่ ผมก็ฟังแล้วงงอยู่ แต่รู้ว่านายกทักษิณได้พลิกแพลงดัดแปลงอย่างพิษดาร ถ้าไม่ใช่นักบัญชีหรือภาษีแล้ว ยากที่จะเข้าใจได้ แต่ทั้งหมดก็โดยเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีทั้งนั้น มีการแก้ทางกฎหมายโดยผ่านทางรัฐสภา และการร่วมมือของกรมสรรพกร และกรมสรรพสามิต แล้วก็ลงเอยว่าหนีภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เงินที่จากการขายครั้งนี้ก็ไม่มาก แค่ 73,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง อาจต้องเสียภาษีกว่า สองหมื่นล้านบาท แต่เขาก็ไม่ยอมเสียแม้แต่บาทเดียว อ้างว่าถูกต้องตามกติกา(บางคนเรียกว่ากติโกง)

เราโดยมากคงไม่รู้ว่า เรามีฐานทัพอากาศของสิงคโปร์อยู่ที่อุดรธานี และฐานทหารพลร่มอยู่ที่กาญจนบุรี เพราะการเอื้ออาทรของนายกทักษิณ โดยการซื้อหรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการค้าของนายกทักษิณ พวกเราก็เกือบไม่เคยรู้เลย เพราะรัฐบาลปิดกันไม่ให้รู้กัน บอกว่าเป็นความลับทางทหาร(ของเขา ต้องปิดให้เขาด้วย)

สิงคโปร์จะมีกองทัพอากาศไว้ทำไม ก็ไม่เพราะประเทศมาเลเซียที่จ่อคอหอยเขาอยู่ แต่เกาะสิงคโปร์มันเล็กมาก มีเครื่องบิน F 16 จะเอาสนามบินไปตั้งที่ไหน แล้วจะไปฝึกบินที่ไหน ก็ต้องจีบนายกทักษิณโดยแลกหมูและหมา โดยใช้เมืองไทยที่มีพื้นที่ใหญ่และมีนักการเมืองท้องถิ่น ที่ชอบเงินมาก ๆ มัน ก็ง่ายละ แล้วเอานายทหารของเรามาฝึกให้พวกมัน นอกนี้เรายังต้องฝึกพลล่มให้เขาด้วย มันเท่ากับนายกเขาขายแผ่นดินของชาติเลยทีเดียว

นายทักษิณชอบพูดข่มขู่ต่อจังหวัดอื่น ๆ ที่ไม่เลือกผู้แทนของพรรคไทยรักไทยของเขาว่า เพราะไม่เลือกไทยรักไทยนั่น จังหวัดพวกนี้จะไม่ได้รับการดูแลและเงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาที่เรียกว่าเงินทุนหมู่บ้าน เท่ากับจังหวัดเลือกไทยรักไทยมากก็เป็นพวกของเขาจะได้รับการดูแลอย่างดี

 คิดดูซี่ครับ เท่ากับเขาแยกประเทศในการปกครองเป็นสองส่วน ที่แท้ควรเป็นสามส่วน คือสามจังหวัดทางภาคใต้ที่มาเลเซียคอยค้ำจุนอย่างไม่เปิดเผย เพราะเราไปช่วยกองทัพของสิงคโปร์ให้มาจ่อคอหอยเขา จึงต้องทำให้ประเทศปั่นป่วน แล้วสามจังหวัดมันจะสงบได้อย่างไร เพราะนายทักษิณปกครองสามจังหวัดนี้ก็ด้วยลูกปืนและแบงค์บาทเท่านั้น ไม่ได้ด้วยความครองธรรมของผู้ปกครอง เราอ่านแต่คนไทยถูกฆ่า แต่ที่เราไปฆ่าเขาข่มเหงเขา เราไม่เคยได้ยินข่าวเลย เรียกว่าพวกมึงจะอยู่ก็อยู่ต่อไปแต่อย่างหวังเจริญเลย นี่ก็เท่ากับเมืองไทยมีอยู่สามมณฑล มันเป็นเวรกรรมอะไรหรือครับ

ความร่ำรวยของนายกทักษิณ ไม่เคยหากินได้จากการได้เงินจากต่างประเทศด้วยการค้าขายโดยความอัจริยะอย่างที่เขาเคยคุยเลย แต่ได้เงินจากการดูดกินจากภายในประเทศของเราเอง ที่ว่าไปขายช่องส่งSignal ในดาวเทียมให้ต่างประเทศที่เราคิดว่าฉลาดแล้ว ก็โดยการแลกเอาผลประโยชน์ของไทยไปให้เขา เขาเรียกว่า FTA  ปัจจุบัน ประเทศจีนที่นายทักษิณไปเซ็นสัญญากับเขาไว้ ประเทศไทยมีแต่ของทุกอย่างที่ Made in China เต็มไปหมด แม้กระทั่งหอมกระเทียม ที่ชาวเหนือปลูกขายกันก็ต้องเลิกปลูก  ส่วนFTA ที่ทำไว้กับออสเตรเลีย ก็ส่งเหล้าไวน์ ผลิตผลทางนมวัว นมผง เนื้อวัว จนชาวไทยที่เลี้ยงวัวต้องขาดทุนไปตาม ๆ กัน แล้วยังบริษัทเงินทุน แบงค์ เพียงเพื่อแลกให้ออสเตรเลียใช้ดาวเทียมของเขาเท่านั้น

นอกจากมีบริษัทมือถือ ดาวเทียมที่เป็นโมโนโปลี่ ยังมีสายการบิน Asia airline ที่เข้าหุ้นกับมาเลเซีย ได้ทำการแข่งกับการบินไทย จนทำให้การบินไทยทรุดโทรมลงไป เสียสายและเที่ยวการบินที่ทำการกำไรไปมากมาย โดยคำสั่งของนายทักษิณ มีบริษัทเงินกู้ OK บริษัททีวี ITV หุ้นส่วนในบริษัทและแบงค์ต่าง ๆ องค์การปิโตรเลี่ยมของประเทศไทย แล้วนี่ก็จะเข้าไปยึดครององค์การไฟฟ้าทั้งภาคกลางและภูธรบริษัท ส่วนของญาติและลูก ก็มีการยกสัมปทานโฆษณาในรถใต้ดิน เหนือดิน รถประจำทางต่าง ก็เป็นของลูกชาวเขา โดยยกสัมปทานให้เฉย ๆ ไม่ต้องประมูล พ่อยกให้ฟรี ๆ บริษัทไหนอยากโฆษณาก็มาจ่ายค่าโฆษณา ที่ดินรอบ ๆ สนามบินหนองงูเห่า สัมปทานร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในสนามบินอันใหม่ก็อยู่ในมือของบริษัทของเมีย ของญาติของพรรคพวก ยังมีอีกมาก แต่ผมจำไม่ได้หมด

ตอนเข้าเป็นนายก เมื่อหกปีแรกตอนเป็นนายก ทรัพย์สินเขามีแค่ สามหมื่นกว่าล้าน  ที่เขาเคยบอกว่าเขารวยพอแล้ว ต่อไปจะทำให้แก่ประเทศชาติอย่างเดียว สมบัติเขาจะแบ่งเป็นสามส่วน หมื่นล้านให้ลูก หมื่นล้านตัวเขาและเมียเขาเก็บไว้ใช้ อีกหมื่นล้านช่วยชาติ จริง ๆ แล้วเขาเอาหมื่นกว่าล้านนี้ไปทุ่มซื้อเสียง เพื่อหาสมาชิกสภาราษฏรเข้าพรรคไทยรักไทยให้มากที่สุด จนปีที่แล้วเขาสามารถกุมสภาได้ด้วยเสียง 375 โดยฝ่ายค้านมีแค่ 125 เสียงเท่านั้น ด้วยจำนวนเสียงฝ่ายค้านที่น้อยนิดนี้ จึงไม่สามารถที่จะยื่นญัตติเปิดสภาซักถามนายทักษิณได้แม้แต่เรื่องเดียว เพราะกฏหมยบอกว่าจะต้องมีอย่างผู้แทนอย่างน้อย 200 เสียงถึงจะเปิดมติสอบถามได้ เขาเลยมีอำนาจเต็มที่ จะทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครมาถามหรือรู้ความลับได้ เรียกว่าดาบไร้เทียมทานในประเทศไทย นั่นแหละครับ เรียกว่า เงินซื้ออำนาจ แล้วก็เอาอำนาจมาซื้อเงินต่อ  

ตอนนี้เขารวยติดอันดับหนึ่งของไทย มีถึง กว่าหนึ่งแสนหกหมื่นล้านบาท เขาก็ขายบางส่วนให้สิงคโปร์แค่ เจ็ดหมื่นสามพันล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว เพราะเขาว่าถูกต้องตามกฎหมายและกติกา

เพราะไปได้ความรู้ที่เลวร้ายพวกนี้เลยทำให้ผมเลือดเดือด ต้องไปร่วมหัวกับพรรคพวกที่เลือดเดือดเหมือนกัน ไปเดินขบวนขับไล่ทักษิณ เกือบทุกอาทิตย์ที่หน้ากงสุล โดยยอมเอาชื่อผมเข้าเสี่ยง และยอมให้ถ่ายรูปและสัมภาษณ์ เพราะเป็นแกนนำคนหนึ่ง จนเป็นบุคคลที่โดนคนเขาชอบทักษิณเขาโจมตี หาว่าพาดพิงถึงนายทักษิณโดยไม่มี่ความนับถือและหยาบคาย โดยเฉพาะจากคนดูจากทีวีไทยท้องถิ่น เพราะไม่ชอบหน้าแก่ ๆ อย่างผม แถมเป็นนายแพทย์อีกด้วย

เอาละครับ พูดมาก็มาก หวังว่า VCD สองสามแผ่นนี้ก็พอจะเปิดหูเปิดตาคุณหมอได้บ้าง แต่ถ้าอยากจะรู้อีกก็ต้องค้นหาเอาเอง แต่ก็ไม่ยาก เช่น www.cualumni.us news section ท่อน cuaac. มีบทความเรื่อง สารคดีพิเศษเกี่ยวกับประเทศอาร์เจนตินา อ่านแล้วสงสารชาวอาเจนตินามากทีเดียว  www.komchadluek.net เปิดดูบทความ เขียนโดยนักเขียนเก่ง ๆ หลายคน www.thaipost.net แล้วก็อย่าลืม www.manager.co.th ของนายสนธิ ในนั้นมีรายการสัปดาห์หลาย ๆ อาทิตย์ แต่เป็นเสียง ไม่มีภาพ

หวังว่าแค่นี้ก็คงพอเปิดหูเปิดตาเพื่อนถึงเรื่องเมืองไทยได้ แล้วจะได้สงสารและรักเมืองไทยมากขึ้น แค่นี้ผมก็ดีใจมากที่ทำให้คนไทยที่จากเมืองไทยไปนานจะได้กลับมารักเมืองไทย และปกป้องชาติบ้านเกิดเมืองนอนของเรา จะได้ไม่เป็นคนเนรคุณต่อชาติของเรา

 

ด้วยความนับถือ

สุวัฒน์ สุวรรณวานิช พบ.

     

                                                                                                       อ่านต่อ ตอนที่ 2

                                                                                                          

   หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2005 Chulalongkorn University Alumni Association of California