หลวงจีน
ตอนที่ 1
นพ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช
หลู่ตะเป็นนายกองทหารที่จังหวัดเท่งอัน แล้วถูกย้ายมาเป็นนายตำรวจเป็นนายตำรวจที่รูปร่างสูงใหญ่ หนวดเครารุงรังเหมือนนายพลเตียวหุยในเรื่องสามก๊กปานนั้น สมกับเป็นนายทหารของราชวงศ์ซ่ง ก่อนหน้าที่จะมาเป็นนายตำรวจกองปราบนี้เคยเป็นทหารรบทับจับศึกมามากแล้ว และระหว่างที่เป็นนายตำรวจอยู่นี้ก็ได้ทำการจับกุมคนร้ายมามาก เมื่อโจรผู้ร้ายได้ยินว่านายกองหลู่มาจับเองมักจะขวัญหนีดีฝ่อ ถึงกับปัสสาวะและอุจจาระแตกในกางเกง ไม่อยากอยู่เพื่อผจญหน้าท่าน เพราะขืนอยู่หรือดื้อต่อสู่ด้วยมีหวังตาย.
นายกองหลู่ตะเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เกลียดชังต่อการเอารัดเอาเปรียบหรือรังแกคนจน. เพราะนิสัยอย่างงี้แหละครับ วันหนึ่งก็เลยเกิดเรื่องจนได้.
นับแต่ลูกสาวของพ่อเฒ่ากิมถูกจ้าวพ่อท้องถิ่นที่ชื่อว่า แต้ถู ซึ่งเปิดร้านขายหมูอยู่แถวเชิงสะพานจ่อหงวนในเมือง ขับไล่ออกจากบ้านของเขา หลังจากได้จับตัวนางลูกสาวมาเป็นเมียน้อยเมื่อสามเดือนที่แล้ว โดยสัญญาว่าจะให้สินสอดทองหมั้น สมกับธรรมเนียมที่จะตกแต่งเอาเป็นเมียน้อย แต่ก็ไม่เคยได้ให้สินสอดกับทองหมั้นดังที่สัญญากันไว้. เมื่อนักเลงหรือจ้าวพ่อท้องถิ่นเกิดเบื่อต่อนางขึ้นมาก็ได้ขับไล่ไสส่งให้ออกจากบ้าน ให้ไปอยู่ที่โรงเตี๊ยมแทน แถมบังคับให้พ่อลูกออกไปหากินโดยการร้องรำทำเพลง เพื่อถ่ายถอนตัวลูกสาว. พ่อลูกก็ได้แต่คร่ำครวญร้องไห้ทุกวัน เพราะจะหนีไปจังหวัดอื่นที่มีญาติอยู่ก็ไปไม่ได้ เพราะถูกนักเลงคอยคุมจับตัวกลับมา.
วันหนึ่งนายกองร้อยหลู่ตะเข้ามากินอาหารที่โรงเตี๊ยมนี้กับเพื่อนฝูง ได้ยินสองพ่อลูกร้องไห้คร่ำครวญอยู่หลังร้าน ก็เรียกมาไต่ถามดู พอรู้ความเรียบร้อย นายกองคนนี้ถึงกับตบโต๊ะผาง อารมณ์ร้ายพลันเกิดขึ้น “ช่างไม่มีเหตุผลเสียกระไร นี่มันเลวยิ่งกว่าแมงดานี่ว่า จะต้องไปเอาเรื่องกับนายแต้ถูนักเลงชั้นสะหวะเดียวนี้” แต่เพื่อนฝูงก็ได้พยายามห้ามปรามเอาไว้ เมื่อไปหาเรื่องไม่ได้ นายกองร้อยหลู่ตะก็ควักเงินออกมาหลายสิบตำลึงมอบให้สองพ่อลูก แล้วสั่งให้รีบออกจากตัวเมืองในวันรุ่งขึ้นแต่เช้าตรู่ทันที ก่อนที่พวกนักเลงจะมาอาละวาด.
รุ่งเช้าตรู่นายกองหลู่ตะก็มานั่งเฝ้าดูว่าพ่อลูกทั้งสองจะออกจากเมืองโดยปลอดภัย แต่ก็ยังช้ากว่าฝูงนักเลงที่ได้ข่าวมา พวกนี้มาแต่เช้ามืดเพื่อรอขัดขวางพ่อลูกทั้งสองไม่ให้ออกจากโรงเตี๊ยม แถมทวงถามถึงเงินที่นายกองหลู่ให้ไว้แต่เมื่อวาน นายกองซึ่งนั่งเฝ้าดูอยู่ก็โมโหขึ้นสุดขีด เดินรี่เข้าหากลุ่มนักเลง โดยเฉพาะตัวที่ทำเป็นหัวหน้ามีลอยสักทั้งตัวและเป็นเจ้ากี้เจ้าการขัดขวางไม่ให้สองพ่อลูกออกจากโรงเตี๊ยม. นายกองหลู่ตะถามว่ามันเป็นปัญหาอะไรหรือเปล่าที่อั๊วจะให้พ่อลูกทั้งสองออกจากเมืองไป อ้ายตัวนักเลงที่ไม่รู้ฤทธิ์ของนายกองและคิดว่าเส้นตัวเองมันบิ๊ก ๆ ก็ตอบยวนมาว่า มีซี่เมื่อลูกพี่อั๊ว นายแต้ถูไม่ให้ไปก็แปลว่าไปไม่ได้. ไม่ว่าเทวดาหน้าไหนก็ตามแต่ นายกองหลู่ฟังแล้วเลือดขึ้นหน้า ลุกขึ้นพรวดพราดเข้าหาจ้าวนักเลงคนนั้น ซึ่งมีรูปร่างเตี้ยกว่านายกองระดับคอเท่านั้น นายกองหลู่กางฝ่ามือที่ใหญ่เท่าใบพายตบเข้าให้ที่แก้มของของมัน เห็นแต่มันลงไปกลิ้งอยู่บนพื้นร้องไห้คร่ำครวญ พร้อมกับบ้วนเอาฟันทองที่หลุดออกจากปากมาหลายซี่พร้อมกับเลือด แก้มทางด้านซ้ายบวมแดงขึ้นมาทันที พอลุกขึ้นได้รีบวิ่งแจ้นออกจากโรงเตี๊ยมไป ลูกกระจอกก็วิ่งหนีตามกันไปด้วย. นายกองหลู่รีบนำสองพ่อลูกออกจากเมืองไป พร้อมกับยืนรออีกครู่ใหญ่ ๆ จนแน่ใจว่าพวกนักเลงจะไม่มาดักกั้นอีกจึงได้ย้อนเข้าเมืองมา.
อารมณ์ก็ยังขุ่นหมองไม่หายโมโห แหม ๆ ไอ้เจ้านักเลงแต้ถูมันใหญ่โตมาจากไหนว้า ขนาดในเมืองที่มีกฎบ้านกฎเมืองก็ยังทำการลังแกต่อราษฎรธรรมดาได้ ไม่เกรงกลัวกันเลย. คิดแล้วก็ก้าวเดินอาด ๆ อย่างรีบร้อนไปที่เชิงสะพานในเมือง (เผอิญเมืองนั้นมีอยู่สะพานเดียวเท่านั้น ผมเลยไม่อยากให้จำชื่อ เพราะผมก็อ่านออกเสียงไม่ถูกด้วย) ที่ร้านขายหมู่ของนายแต้ถูตั้งอยู่. พอเดินเข้าร้านก็เห็นจ้าวพ่อแต้ถูนั่งซดน้ำชาอยู่ แถมยกขาขึ้นมาข้างหนึ่ง ทำท่าเหมือนจ้าวแม่กวนอิมอย่างงั้นแหละ พอเจ้าพ่อเห็นนายกองหน้าเสียเดินเข้าร้านมาก็รีบเข้าทักทายทันที นายกองหลู่ยังคงแสดงอาการหน้าบึ้งอยู่ พอเห็นนายแต้ถูโผล่หน้ามาทักทายก็พยักหน้าแล้วก็นั่งลง ในหัวก็คิดจะเตะมันสักปับหนึ่ง พลอยคิดอะไรได้ ก็เลยสั่งให้เถ้าแก่นักเลงโตไปเอาเนื้อแล่แบบบาง ๆ มาสองชั่ง และต้องให้เถ้าแก่แต้เป็นคนแล่เองอีกด้วย การที่จะแล่เนื้อบาง ๆ ก็คือบางเหมือนแบบหมู่แผ่นเลยครับ ไอ้สองชั่งกว่าจะแล่เสร็จก็คงร่วมชั่วโมง เถ้าแก่แต้ซึ่งเคยเป็นคนสั่งคนอื่นเท่านั้น ฟังแล้วก็ฉุนขึ้นมาทันทีแต่ไม่กล้าแสดงออก เพราะกลัวฤทธิ์ของนายกองคนนี้ ก็ก้มหน้าก้มตาทำให้ กว่าจะแล่เนื้อเสร็จ ก็คิดว่าคงจะหมดเรื่อง หน่อยแน่สั่งเอากระดูกซี่โครงหมู อีกสองชั่ง โดยสั่งให้โละเอากระดูกข้างในให้ออกหมด. เถ้าแก่แต้พอได้รับคำสั่งใหม่ก็โมโหในใจ พร้อมกับบ่นเบาประท้วงออกมาว่า เหี้ยเอ๊ย สั่งบ้าบออะไรอย่างงั้นว้า. ถึงแม้จะสียงค่อยแต่ก็ได้ยินเข้าหูนายกองจนได้ พอนายกองได้ยินก็ด่าออกมาทันทีว่า “มึงด่าใครว้า มึงไม่รู้จักกูหรือไง ประชาชนธรรมดามึงพอจะข่มเหงได้ แต่กับกู มึงอย่ามาด่าไอ้เหี้ยนะมึง”. เท่าแก่แต้ ที่สันดารเป็นนักเลงเจ้าถิ่นอยู่แล้วเพราะมีเส้นก๋วยเตี๋ยวหนุนหลังอยู่ ซึ่งปรกติก็ไม่ยอมใครอยู่แล้ว ก็เลยยั้งไม่อยู่เหมือนกัน ด่าออกมาทันที “มึงแค่นายกองนะจะเบ่งไปถึงไหน ระวังนะมึงกูจะไปบอกเจ้านายกูเล่นงานมึงให้ได้” พอนายแต้พูดจบ นายกองหลู่เดินย่างเข้ามาหาที่เขียงหมูทันทีพร้อมกับชูมือจะตบเข้าที่หน้า อ้ายนักเลงแต้ซึ่งเคยเรียนมวยจีนมาเหมือนกันพอเห็นนายกองเดินย่างเข้ามาหาพร้อมกับชูมือจะตบ นายแต้ก็ยกปังตอ(มีดสับหมู) ขึ้นขวางทันพร้อมกับสับไปที่หน้าของนายกองหลู่ นายกองหลู่หลบปังตอได้ก็คว้าเข้าที่ข้อมือที่ถือปังตออยู่ บิดข้อมือไปข้างหลังจนมีดปังตอตกลงพื้นไป พร้อมกับกำปั้นที่ใหญ่เท่าใบลานก็ซัดเข้าใส่ที่ข้างกกหูด้านขวา ความแรงของกำปั้นเล่นเอานักเลงแต้หงายกระเดน หัวฟาดกับพื้นดังสนั่น แล้วก็แน่นิ่งไป นายกองหลู่พอต่อยหน้านายแต้หนึ่งทีก็เดินอาด ๆ ออกจากร้านไป ไม่หันหลังกลับมาดู และก็ไม่มีใครกล้ามาขวางหน้า.
นายแต้หลังถูกหมัดอย่างจังลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่ลุกขึ้น ลูกจ้างทั้งหลายก็ออกมาพยุงตัวให้ลุกขึ้น แต่นายแต้ก็สลบเหมือดไม่ฟื้นคืนมา แถมหายใจดังครืด ๆ ลูกน้องและเมียเห็นท่าไม่ดีรีบบอกให้คนตามหมอมาดู แต่ก่อนหมอจะมาถึงก็ขาดใจตายเสียแล้ว.
นายแต้โดนหมัดที่ใหญ่เท่าใบพายที่ข้างกกหู คงแถว ๆ ขมัก ที่แรกก็แค่สลบ แล้วก็ค่อย ๆ แน่นิ่งไป คงเป็นอาการของเลือดออกในสมอง และออกมากด้วย เขาเรียกว่า Intracranial Hemorrage การที่เท่าแก่แต้โดนหมัดอย่างแรง แล้วล้มทั้งยืนหัวฟาดพื้นอีก ปรกติจะไม่ตายหรอกสมองจะขอกข้ำมาก เพราะสมองจะถูกแรงกระแทก แล้วก็กระแทกชนเอากระโหลกที่แข็งเป็นกระดูก มันจะกระแทกหน้ากระแทกหลังจนแรงหมด อย่างนี้มันก็ช้ำทั้งหน้าและหลัง แล้วก็บวมขึ้นมาทันทีจนเต็มช่องว่างของกระดอก จนขยายไม่ได้ อย่างนี้เขาเรียกว่า Cerebral Contusion คือเกิดสมองบวม คนป่วยจะสลบไปนาน จนกว่าสมองจะหายบวม หรือหมอจะต้องให้ยาลดน้ำในร่างกายลง หรือให้ยาพวกสเตียรอยด์เข้าเส้น ป้องกันไม่ให้บวมต่อไป ถ้าบวมไม่หยุด จะทำให้สมองส่วนล่างที่เรียกว่า Brain Stem (คือส่วนบนสุดของไขสันหลังที่ต่อกับสมองส่วนล่าง) ถุกบีบให้เคลื่อนผ่านแผ่นกระบังที่เรียกว่า Tentorrium Cerebelli. แน่นอนเมื่อ Brain Stem ถูกกดหรือบีบ จุดศูนย์สำคัญเกี่ยวกับการควบคุมการหายใจการเต้นของหัวใจ จะหยุดทำงานได้ นั่นแก้คือ ตาย
ความซวยของเถ้าแก่แต้ก็คือถูกตะบันอย่างแรงที่ขมับ Temperal Bone ตรงนี้จะมีเส้นเลือด ที่ติดอยู่กับด้านในกระโหลก เรียกว่า Deep Tempolal Artery อาจฉีก เพราะกระดูกมันร้าว เลือดจะพุ่งออกอย่างรวดเร็ว เรียกว่า Epidural Hemorrage ทำให้สมองถูกเบียด แล้วก็เคลื่อนที่ลงด้านล่าง ศูนย์กลางหายใจก็ถูกกด แล้วก็ตาย อย่างที่บรรยายมาแล้ว ก่อนจะสิ้นลมก็คงมีมือไม้กระตุกสมกับเป็นหนังกงฟู เพื่อความตื่นเต้นและร้าวใจ
ABOUT US | EVENTS | NEWS | ALUMNI BOARD | WEBBOARD | CONTACT US
Copyright 2005 Chulalongkorn University Alumni Association of California