แบรนด์นั้นสำคัญไฉน ตอนที่ 4 ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์
ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์
จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต
สาขาไฟฟ้าจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และจบปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เริ่มงานเป็นวิศวกรโรงงานแต _____________________________________________________________________________________________________________________________________
|
Promise & Delivery Management
การสร้างแบรนด์กลายเป็นคำพูดที่ใช้กันมากในช่วงไม่กี่ปีนี้ พื้นฐานมาจากแนวคิดว่า “Consumers buy brand not product” ผมเคยผ่านตารายงานของบริษัท Interbrand ซึ่งเป็น Brand agency ระดับโลก เขาบอกว่ามูลค่าตลาดของบริษัท Coca-Cola ในปี 2001 อยู่ที่ 1.16 แสนล้านดอลลาร์ ในรายงานยังวิเคราะห์ต่อว่ามูลค่าตลาดดังกล่าวสามารถแบ่งกลุ่มได้สามประเภทคือ Tangible asset, Intangible asset และ Brand value ให้คุณเดาว่ามูลค่าในหมวดหมู่ไหนมีค่าสูงสุด
60% ของ Market capitalization ของ Coca-Cola มาจากมูลค่าของแบรนด์ นี่น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าทำไมนักการตลาดจึงให้ความสำคัญกับการปั้นแบรนด์
มีหลากหลายทฤษฏีว่าด้วยการสร้างแบรนด์ แต่ปลายทางมีเป้าประสงค์เดียวกันคือสร้างให้ผู้บริโภคมีความเสน่หาในตัวแบรนด์และอยากได้แบรนด์นั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ผมมีความเห็นว่าแก่นของการสร้างแบรนด์คือเป็นกระบวนการว่าด้วยเรื่อง Promise & delivery management เป็นการบริหารจัดการในการสร้างสัญญาประชาคมและความสามารถขององค์กรที่จะทำสัญญานั้นให้เป็นจริงได้หรือไม่
เป็นหลักการง่ายนิดเดียว พูดง่ายแต่ทำไม่ง่าย
Anita Roddick เป็นมนุษย์เดินดิน กินข้าวแกงเหมือนกับพวกเรา ด้วยความที่เป็นคนมีหลักการเมื่อเธอเปิดร้าน Body Shop ร้านแรกในเมืองไบร์ทตันประเทศอังกฤษ เธอยึดมั่นในแนวคิดของการทำธุรกิจที่ว่า “Profit with a principle business” แน่นอนธุรกิจต้องหวังผลกำไรแต่ต้องยืนบนพื้นฐานของความมีหลักการ ซึ่งแนวคิดนี้ได้กลายมาเป็น DNA ของตัวแบรนด์ในเวลาต่อมา
หลักการของ Anita Roddick คือ
1. สินค้าของ Body Shop ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่มีการทดลองกับสัตว์
2. การเป็นองค์กรธุรกิจต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ว่าสังคมนั้นจะเป็นสังคมท้องถิ่นหรือสังคมโลก ความรับผิดชอบที่ว่านั้นคือการทำให้สังคมมีคุณภาพที่ดีขึ้น
3. ส่งเสริมและรักษาสิทธิของมนุษยชน
จากเสาเข็มของสัญญาประชาคมเมื่อยี่สิบแปดปี Body Shop ไม่เพียงพูดด้วยลมปากแต่ทำด้วยความหลงใหลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ ตัวอย่างเช่น Body Shop มีคู่ค้าที่เป็น Supplier มากกว่าสองพันหลาย ทุกรายต้องรับประกันว่าวัตถุดิบที่ขายให้กับ Body shop มาจากธรรมชาติปราศจากสิ่งปลอมปน ความเข้มงวดสูงถึงขั้นว่าถ้าวัตถุดิบนั้นทำมาจากต้นไม้ ต้นไม้นั้นต้องผ่านการ Certified เพื่อรับประกันว่าไม่ได้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
ในความรับผิดชอบกับสังคม เริ่มต้นตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆภายในองค์กรของ Body Shop พนักงานของบริษัทที่เป็นคุณแม่ลูกอ่อนสามารถพาลูกมาทำงานได้ เพราะที่สำนักงานใหญ่ของ Body Shop มี Child care center ที่ดูแลเด็กเล็กที่เป็นลูกของพนักงานในระหว่างที่พนักงานกำลังทำงาน นี่เป็นผลมาจากความเชื่อของ Body Shop ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของความเป็นครอบครัว
ในความรับผิดชอบที่ใหญ่กว่านี้ Body Shop ส่งเสริมให้แหล่งผลิตของตนกระจายอยู่ในประเทศที่ยากจน Anita เชื่อว่าการสร้างฐานผลิตในประ เทศที่เศรษฐกิจไม่แข็งแรงเป็นการสร้างงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมนั้นให้มีความสุขมากขึ้น
สิทธิในการแสดงออกเป็นสิ่งที่แบรนด์ Social activist อย่าง Body shop มีส่วนร่วมอย่างกล้าหาญ เช่นสนับสนุนให้ผู้หญิงเป็นตัวของตัวเอง ถ้าคุณเป็นคนเจ้าเนื้อไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนไม่สวย เพราะความสวยไม่ได้อยู่ที่อ้วนหรือผอม เมื่อเกิดสงครามอ่าวในตะวันออกกลาง Body Shop เป็นคนแรก ๆ ที่ยืนอยู่หัวแถวต่อต้านการทำสงครามโดยไม่กังวลว่าความเห็นของแบรนด์จะมีผลต่อยอดขายหรือไม่
วันแล้ววันเล่าที่ Body Shop ทำ Promise & delivery management อย่างเข้มแข็งและลงลึกในทุกรายละเอียดทำให้เป็นที่รู้จักกันในระดับนานาชาติ Anita Roddick บอกว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากโฆษณาเพราะเธอเองไม่มีเงินมากพอที่จะสู้กับยักษ์ใหญ่ แต่เกิดจากการที่ผู้คนพูดต่อ ๆ กันถึงปรัชญาของตัว
แบรนด์และเชื่อในความจริงจังของแบรนด์ที่พูดจริงทำจริง
ถ้าคุณอยากรู้ว่าความมุ่งมั่นในการทำ Promise & delivery management มีอานุภาพขนาดไหน ขอแนะนำให้ไปดูหนังเรื่อง The Terminal แล้วจะรู้สึกถึงพลังของมัน