ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

                          หลวงจีน

                                                                                     ตอนที่ 8

                                                                                                                      นพ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

  

กำฮอย ฟัตฉ่อย

    วันพุธก็เป็นวันตรุษจีน ซึ่งหลายประเทศทางเอเชียถือเป็นวันสำคัญยิ่ง ยิ่งผมอยู่เมืองWestminster ซึ่งถือว่าเป็นถิ่นคนเวียตนาม ถึงกับมี Saigon town จราจรตั้งแต่วันเสาร์จนถึงเมื่อวานนี้ คนจ่ายตลาดกันคับคั่ง เพราะวันที่ 8 วันอังคารนี้เป็นวันไหว้ ตอนเช้าเขาจะต้องรีบไปเอาเป็ดไก่หมูที่เขาสั่งฆ่าและทำสำเร็จแต่ตอนเช้า พร้อมกันอาหารที่ทำเองอีกหลายอย่างเพื่อไปบูชาบรรพบุรุษกัน นับว่าครื้นเครงกันดีมาก เสร็จแล้วก็มีการเผากระดาษเงินกระดาษทองกัน เพื่อเป็นเงินติดกระเป๋าเอาไปใช้ในปรโลก ถ้าอยู่เมืองไทยหรือฮ่องกงก็ต้องมีการจุดประทับให้สนั่นหวั่นไหว เป็นกันไล่ผีปีศาจกัน คงต้องจุดประทัดตอนไหว้เสร็จแล้ว ไม่งั้นบรรพบุรุษเก่า ๆ ที่ล่วงลับไปแล้วจะตกใจเลยหนีไปหมด ลืมกินอาหารที่เตรียมไว้ทั้งคืน และเงินทองที่จะพกติดตัวไปด้วย เมื่อบรรพบุรุษไปแล้ว ก็ตาพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนผู้ใหญ่ก็ฟาดเหล้าบรั่นดีเลยทีเดียว เด็ก ๆเราก็ได้โซดาดื่มกัน

     ถึงแม้ผมจะแก่พอสมควร ความจำแต่หนหลังก็ยังจำได้ดีทีเดียว ในสมัยเด็ก ๆ เป็นอาตี๋นั้นมันก็แสนดีใจ เพราะได้ถุงสีแดง เรียกว่าแต๊ะเอียว ก็จะมีเงินใช้ซื้อของเล่นได้หลายอย่าง     

    ก่อนหน้าสองสามวันก่อนตรุษจีน เขาก็มีการไหว้กันแล้ว แต่เป็นขนมเข่ง หรือสมัยใหม่หน่อยก็ใช้ขนมเทียนแทน ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อส่งจ้าวท่านขึ้นสวรรค์ เจ้าที่ก็มีสองอย่าง อย่างที่อยู่กับพื้นเขาเรียกว่า ตี้จู๊เอี๊ย ส่วนที่ประดับสูงเหนือระดับประตูเขาเรียกว่า ปึ๋งเท่ากง การที่ต้องไหว้ให้ดี ๆ และขนมอร่อย ๆ นั้น เขาเรียก คอรัปชั่น เพราะถ้าท่านเจ้ารายงานแต่เรื่องไม่ดีของบ้าน สวรรค์ก็จะลงโทษเอา ดังนั้นขนมเข่งถึงมีประโยชน์ เพราะทั้งร้อนทั้งเหนียว ถ้าเจ้าไม่ระวังปากอาจโดนลวกจนปากพอง เลยรายงานไม่ได้ถนัด นี่แหละครับ คนจีนก็หัดคอรัปชั่นแต่ไหนแตไรมาแล้ว ค่ายแกงเฮ๊าะเขาก็มีกุนซือดี ๆ เชื้อคนจีนหลายคน อย่าเอ่ยชื่อเลย เผลอ ๆ เกี่ยวดองเป็นญาติกับผมก็ได้ ทำให้ผมเป็นที่รังเกียจของสังคมก็ได้ ถ้ารวยก็คงไม่มีใครรังเกียจ แล้วยังแถมมีคนเดินตามต้อย ๆ เข้าห้องส้วมยังคอยเฝ้าประตูให้ด้วย

      รุ่งเช้าก็เป็นตรุษจีนกันจริง ๆ หรือเรียกว่า ชิวอิ๊ด ทุกคนก็จะแต่งตัวด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ ถ้าไม่ใหม่ก็ชุดที่ซักรีดเรียบร้อยแล้วเป็นใช้ได้ เด็ก ๆ อย่างผมก็ต้องตื่นแต่เช้าตามผู้ใหญ่ไปไหว้เจ้าตามวัดหรือศาลเจ้าต่าง ๆ  วัดแรกที่ไปก็ที่ปากคลองตลาด ข้ามเรือยนตร์โดยสาร คนแน่นมาก เรือแทบล่ม ก็ไปลงเรือที่วัดกัลยาณมิตร ไหว้หลวงพ่อโต หรือที่คนจริงเรียกว่า ซำปอกง หลวงพ่อโตนี่เป็นพระพุทธรูปที่ชาวจีนในพระนครช่วยกันเรี่ยรายเงินสร้างขึ้นเพื่อฉลองหัวหน้าคณะราชทูตจีนที่ส่งจากพระราชสำนัก ราชวงศ์หมิงมา เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างสองราชสำนัก แต่เบื้องหลังแล้วเพื่อเสาะหาราชทายาทกษัตริย์องค์ก่อนที่โดนลอบปลงพระชนม์ แต่ราชทายาทหนีรอดไปได้ เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามต่อไปก็ต้องสืบหาและกำจัดเสีย ด้วยซำปอกงเป็นถึงขุนนางที่สูงสุดในราชสำนักที่เคยออกนอกประเทศและเยือนประเทศไทย ชาวจีนก็ปลื้มปรีดี ก็ได้สร้างพระพุทธรูปเพื่อเป็นเกียรติแต่ทางซำปอกงดั่งนี้แล

      วัดต่อมาก็กลับมาที่ถนนเจริญกรุง ต้องวัดมังกรซีครับ หรือวัดเล่งไน่ยี่ วัดนี้น่าเที่ยวมาก แต่อย่าไปวันสารทอย่างนี้ ดูแล้วได้แต่ร้องไห้ เพราะควันธูปและเทียนอบอวลไปหมด ใครจะอดร้องไห้ได้ วัดนี้ไปเพื่อกราบไหว้พระพุทธรูปทั้งสามปรางและโหลหั่นทั้งสิบแปดองค์ ตามคติของมหายาน เสร็จแล้วออกมาเผากระดาษเงินกระดาษทองที่นอกโบสถ์ ร้องไห้อีกแล้ว เพราะควันไฟที่เผากระดาษทั้งหลาย ผู้ใหญ่ก็ซื้อนกซื้อเต่า นกก็ปล่อยมันในวัดนั่นแหละ ส่วนเต่านั้นต้องไปแถวคลอง เขาว่านกที่ปล่อย เดี๋ยวมันก็บินกลับมาเข้ากรงอย่างเดิม จะมีที่ไหนมีอาหารสมบูรณ์ที่คนเลี้ยงนกให้กินเล่าครับ

      ขึ้นสามล้อต่อไปที่วัดหรือสำนักหรือศาลเจ้าเต๋าที่อยู่ใกล้ ๆ กับวัดมังกรด้วยบ้านผมมันพอมีกิน ก็มีสามล้อประจำบ้านไว้เสมอ สำนักเต๋านั้นก็เป็น ป๊อเต๊กตึ๊ง จนเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเต๋าหรือพุทธกันแน่ ป๊อเต๊กตึ๊ง ที่เรารู้ ๆ กันก็ตอนมีคนตายหรือไฟไหม้ รถของสำนักนี้จะไปบริการที่นั่นเสมอ ขนศพ แจกเสื้อผ้า อาหาร ทั้งของแห้ง และบริการจานร้อนกันที่บริเวณนั้นเลย ก็ข้าวต้มกับเกี้ยมไฉ่ไงเล่าครับ ผมยังได้รับบริการจากเขาเลย ทั้ง ๆ ไม่เกี่ยวกับไฟไหม้สักนิด แต่เดินผ่าน และตอนนั้นกระเป๋าแห้ง เลยนั่งลงบริการตัวเองสักสองชาม ผมเลยติดพระคุณของป๊อเต๊กตึ๊งเขา กลับเมืองไทยผมก็เอาเงินไปทำบุญทุกทีครับ ป๊อเต๊อตึ๊งนี้ นอกจากช่วยคนอย่างที่เล่า ยังมีโรงพยาบาลอีกสองแห่งที่ต้องช่วยเหลือและดูแลคนไข้ที่ยากจน อย่างให้ฟรีเลยทีเดียว แห่งแรกก็คงจะรู้กัน ชื่อว่า โรงพยาบาลหัวเฉียว อีกแห่งคือ โรงพยาบาลเทียนหัว โรงหลังนี้ คนไข้เป็นแบบเรื้อราง และเป็นคนแก่เสียมากกว่า แถมไม่มีญาติมาดูแลอีกด้วย ป๊อเต๊กตึ๊งก็ต้องเลี้ยงดูจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูพระองค์หนึ่งที่มีชื่อมากในมณฑลเตี้ยจิ๋ว เพราะสร้างกุศลช่วยเหลือคนยากคนจนไว้มาก ท่านชื่อว่า ไต้ฮ่งกง

       เมื่อผู้ใหญ่เขาบริจาคทรัพย์ เขาก็ให้ด้ายสีแดงมาหนึ่งกำ และมีกระดาษยันตร์มาหนึ่งแผ่น จะขอเขาหลายแผ่นเขาก็ให้

       นี่แหละครับการฉลองตรุษจีนก็มีการปะปนของสามศาสนา คือของขงจื๊อ เต๋าและพุทธปน ๆ กัน มันก็ดีเหมือนกัน ทำให้ไม่ต้องผิดใจกัน ไม่ว่าศาสนาไหน ผมยังสงสัยว่าที่ฮ่องกงเขามีคนนับถือศาสนาคริสต์ด้วย เขาจะปนกันแบบนี้ด้วยหรือเปล่า

        เดี๋ยวผมต้องไปฉลองอาหารวันไหว้ที่บ้านญาติหน่อย คิดว่าจะดื่มบรั่นดี หรือเหล้าไวน์เสียหน่อยให้มันเฮง ๆ จะได้ถูกซูเปอร์ล๊อตโตกับหน่อย สักสิบล้านก็คงพอสำหรับผมละครับ ผมก็ขอให้ทุกคนจงพบแต่ความสุข ถูกล๊อตโต๊กันทุกคน ผู้ที่เป็นโรบินฮู้ดก็จะได้กลับเมืองไทยเสียที คนที่ต้องเดินต้อย ๆ ก็จะได้เดินนำหน้ากับเขาบ้าง คนที่เป็นสิบเอกก็จะได้เป็นนายพล คนตกงานก็คงได้งานในปีนี้เอง เพราะเป็นปีไก่ที่ขยัน ผมยังจำคำร้องกล่อมเด็กว่า ตื่นเช้าไปทำงาน เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ตามภาษาไก่เอย

 

                   กลับไปตอนที่ 7                                          อ่านต่อ ตอนที่ 9  

 

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2005 Chulalongkorn University Alumni Association of California